พังงา, 10 พ.ย. (ซินหัว) -- ณ ห้องเรียนธรรมชาติไทย-จีน ซึ่งเพิ่งเปิดทำการใหม่ที่โรงเรียนทุ่งโพธิ์วิทยาในจังหวัดพังงา ดิษย์อร อิทธิอริยสุนทร นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ สังกัดกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ตั้งคำถามกับเหล่านักเรียนว่า "จังหวัดใดในประเทศไทยที่มีป่าชายเลนมากที่สุด?" โดยบรรดานักเรียนส่วนใหญ่ต่างตอบว่า "พังงา" และได้รับคำชมจากดิษย์อร ซึ่งอธิบายเรื่องสรีรวิทยา ทำเลที่ตั้ง และพันธุ์พืชเฉพาะถิ่นของป่าชายเลน
ฉงโป๋หลิน นักวิจัยจากสถาบันสมุทรศาสตร์แห่งที่หนึ่ง (FIO) สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติของจีน ซึ่งเป็นผู้บรรยายประจำคาบเรียนแรกของห้องเรียนนี้อีกคน ได้แจกแจงข้อมูลเกี่ยวกับบทบาททางนิเวศวิทยาของป่าชายเลน ทั้งการช่วยลดผลกระทบจากพายุและคลื่น ตลอดจนรักษาความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน โดยฉงยังบอกเล่าความสำเร็จจากกรณีตัวอย่างของการบูรณาการการอนุรักษ์ป่าชายเลนเข้ากับการพัฒนาชุมชนของจีนด้วย
"ห้องเรียนธรรมชาติไทย-จีน" แห่งนี้เปิดทำการภายใต้โครงการห้องปฏิบัติการร่วมจีน-ไทย ด้านสภาพภูมิอากาศและระบบนิเวศทางทะเล ตามความร่วมมือระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติของจีนกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของไทย โดยสถาบันสมุทรศาสตร์แห่งที่หนึ่ง และมูลนิธิสมาคมผู้ประกอบการและนิเวศวิทยา (SEE) ซึ่งมีฐานอยู่ในกรุงปักกิ่ง จัดสรรเงินทุน ออกแบบ และก่อสร้างร่วมกัน เพื่อเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ด้านการอนุรักษ์ป่าชายเลน
ศรัณย์ภัตร ชูกำลัง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ผู้เข้าร่วมคาบเรียนแรกของห้องเรียนนี้ บอกว่าได้ความรู้ใหม่มากมาย อย่างเช่นป่าชายเลนเป็น "แหล่งอนุบาล" แห่งสำคัญของสัตว์น้ำหลายชนิด ช่วยปกป้องพวกมันจากนักล่าตอนยังไม่เติบโตเต็มวัยอันเป็นช่วงที่เปราะบางที่สุด โดยศรัณย์ภัตรที่เป็นนักเรียนสายวิทย์นั้นสนใจโครงสร้างอันเป็นเอกลักษณ์ของพืชป่าชายเลนอย่างมาก พร้อมเผยว่าถ้าได้เป็นนักวิทยาศาสตร์ เขาอยากศึกษาเกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพและชีวภาพของพืชเหล่านี้เพิ่มเติม
ฉงโป๋หลินในฐานะหัวหน้าโครงการห้องเรียนนี้ กล่าวว่าอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาเป็นหนึ่งในพื้นที่ป่าชายเลนขนาดใหญ่ที่สุดและได้รับการอนุรักษ์อย่างดีที่สุดของไทย ที่นี่เป็นที่ตั้งของเขตสาธิตความร่วมมืออนุรักษ์ป่าชายเลนจีน-ไทย ซึ่งเปิดทำการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 และสร้างผลลัพธ์ต่างๆ โดยเฉพาะการประเมินความเปราะบางของป่าชายเลน ทว่าการปลูกฝังความตระหนักรู้ในชุมชนท้องถิ่น โดยเฉพาะเยาวชน เป็นกุญแจสำคัญของการอนุรักษ์อย่างยั่งยืนในระยะยาว
ฉงกล่าวว่าปี 2025 ตรงกับวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนกับไทย ห้องเรียนแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพอันลึกซึ้ง และหวังว่าที่นี่จะเป็นประตูสู่ความร่วมมือด้านการศึกษาธรรมชาติ แปลงแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อนเป็นภาษาที่เด็กๆ เข้าใจได้เพื่อบ่มเพาะคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมทางทะเล และเปลี่ยนผ่านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์สู่การศึกษาและการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ในระดับมวลชน
ดิษย์อรกล่าวว่าการเปิดห้องเรียนนี้เป็นจุดเริ่มต้นอันดีเยี่ยมในการส่งสารอันทรงพลังไปยังเหล่านักเรียนว่าป่าชายเลนที่อยู่ใกล้บ้านของพวกเขามีความสำคัญระดับโลก รวมถึงเป็นโอกาสอันมีค่าของเยาวชนที่จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศของพืชและประสบการณ์การอนุรักษ์
ศรัณย์ภัตรเสริมว่าที่นี่จะช่วยจุดประกายความสงสัยใคร่รู้ของนักเรียน อาจเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาเลือกเรียนสาขาวิชาที่เกี่ยวกับป่าชายเลนหรือวนศาสตร์ในอนาคต
อนึ่ง ฉงโป๋หลินได้ร่างแผนงานในอนาคตของ "ห้องเรียนธรรมชาติไทย-จีน" แห่งนี้ให้มีส่วนส่งเสริมความพยายามระดับโลกในการปกป้องระบบนิเวศทางทะเลด้วย "แนวทางจีน-ไทย" (Sino-Thai solutions) อีกด้วย

(แฟ้มภาพซินหัว : นักเรียนชาวไทยนำเสนอข้อมูลความรู้ที่คาบเรียนแรกของ "ห้องเรียนธรรมชาติไทย-จีน" ในโรงเรียนทุ่งโพธิ์วิทยา จังหวัดพังงา วันที่ 7 พ.ย. 2025)

(แฟ้มภาพซินหัว : ฉงโป๋หลิน นักวิจัยจากสถาบันสมุทรศาสตร์แห่งที่หนึ่ง สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติของจีน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวที่โรงเรียนทุ่งโพธิ์วิทยา จังหวัดพังงา วันที่ 7 พ.ย. 2025)

(แฟ้มภาพซินหัว : ดิษย์อร อิทธิอริยสุนทร นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ สังกัดกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวที่โรงเรียนทุ่งโพธิ์วิทยา จังหวัดพังงา วันที่ 7 พ.ย. 2025)