วอชิงตัน, 4 พ.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันจันทร์ (3 พ.ย.) รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศแผนการจัดสรรเงินทุนบางส่วนแก่โครงการช่วยเหลือด้านอาหารของรัฐบาลสหรัฐฯ (SNAP) ขณะภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลกลางเข้าสู่วันที่ 34 และใกล้จะทำสถิติยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ (31 ต.ค.) ทรัมป์โพสต์ข้อความบนทรูธ โซเชียล ว่าไม่ต้องการให้ชาวอเมริกันหิวโหยเพียงเพราะพรรคเดโมแครตสายสุดโต่งปฏิเสธจะทำสิ่งที่ถูกต้องและยุติภาวะชัตดาวน์ เขาจึงสั่งการทีมกฎหมายยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอวิธีการจัดสรรเงินทุนแก่โครงการฯ อย่างถูกกฎหมายโดยเร็วที่สุด
คำร้องต่อศาลจากกระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (3 พ.ย.) ระบุแผนการใช้เงินทุนจากกองทุนสำรองฉุกเฉิน จำนวน 4.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.51 แสนล้านบาท) ในโครงการฯ ประจำเดือนพฤศจิกายน ซึ่งครอบคลุมวงเงินที่ครัวเรือนผู้มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์จะได้รับในปัจจุบันราวร้อยละ 50
อนึ่ง เมื่อวันศุกร์ (31 ต.ค.) ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางในรัฐโรดไอแลนด์ออกคำสั่งให้กระทรวงฯ ใช้เงินทุนจากกองทุนสำรองฉุกเฉินมาจ่ายให้ผู้รับสวัสดิการของโครงการฯ ขณะเดียวกันผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางอีกคนในรัฐแมสซาชูเซตส์ชี้ว่าแผนการของรัฐบาลกลางที่จะระงับสวัสดิการของโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ระหว่างภาวะชัตดาวน์อาจ "ผิดกฎหมาย"
ก่อนหน้านี้รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของทรัมป์อ้างว่าไม่มีอำนาจทางกฎหมายในการจัดสรรเงินทุนจากกองทุนสำรองฉุกเฉิน จำนวน 5-6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.63-1.95 แสนล้านบาท) มาใช้สนับสนุนโครงการฯ บางส่วน ซึ่งต้องการเงินทุนมากกว่า 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.61 แสนล้านบาท) เพื่อมอบสวัสดิการประจำเดือนพฤศจิกายน
อนึ่ง โครงการช่วยเหลือด้านอาหารของรัฐบาลสหรัฐฯ หรือสแน็ปเป็นโครงการต่อต้านความหิวโหยอดอยากขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ซึ่งให้ความช่วยเหลือประชาชนเกือบ 42 ล้านคน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้มีชีวิตอยู่ในระดับเดียวหรือต่ำกว่าเส้นแบ่งความยากจนของรัฐบาลกลาง

(แฟ้มภาพซินหัว : พนักงานและลูกจ้างสัญญาจ้างของรัฐบาลกลางต่อแถวรับอาหารระหว่างการแจกอาหารฟรี ที่เมืองไฮแอตส์วิลล์ รัฐแมรีแลนด์ของสหรัฐฯ วันที่ 21 ต.ค. 2025)