กว่างโจว, 23 ต.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพุธ (22 ต.ค.) สถาบันบัณฑิตฟิสิกส์วิศวกรรมศาสตร์แห่งชาติจีนรายงานการยืนยันว่าหลุมอุกกาบาตจินหลินในมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีนเป็นหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่ที่สุดบนโลกเท่าที่เคยค้นพบนับตั้งแต่ยุคโฮโลซีนหรือเมื่อราว 11,700 ปีก่อนจนถึงปัจจุบัน
หลุมอุกกาบาตจินหลินตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ภูเขาเตี้ยของอำเภอเต๋อชิ่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลกว่างตง โดยคณะนักวิจัยประเมินว่าหลุมอุกกาบาตแห่งนี้เกิดขึ้นช่วงต้นถึงกลางยุคโฮโลซีนเมื่ออ้างอิงผลวิเคราะห์อัตราการผุพังทางเคมีของหินแกรนิตในพื้นที่และมีโครงสร้างหลุมค่อนข้างใหม่
เฉินหมิง ผู้เขียนบทความวิจัยคนแรกและนักวิจัยจากศูนย์วิจัยขั้นสูงด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแรงดันสูงของสถาบันฯ กล่าวว่าการสำรวจพื้นที่และทดสอบตัวอย่างทางธรณีวิทยาทำให้ค้นพบหลักฐานการแปรสภาพในชั้นหินและแร่ธาตุเพราะการพุ่งชนอย่างรุนแรงของอุกกาบาต
บทความวิจัยข้างต้นที่เผยแพร่ผ่านวารสารสสารและรังสี ณ จุดสุดขั้ว (MRE) ฉบับเมื่อไม่นานนี้ระบุว่ามีการใช้หลักฐานเหล่านี้ตัดสินว่าหลุมอุกกาบาตจินหลินเป็นผลลัพธ์จากการพุ่งชนด้วยความเร็วสูงมากของวัตถุนอกโลกขนาดเล็กมากกว่ากระบวนการทางธรณีวิทยาของโลกเอง
เฉินกล่าวว่าหลุมอุกกาบาตยุคโฮโลซีนที่ค้นพบก่อนหน้านี้ทั่วโลกมักมีขนาดเล็ก ส่วนใหญ่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 100 เมตร และขนาดใหญ่ที่สุดอยู่ที่ราว 300 เมตร แต่หลุมอุกกาบาตจินหลินมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 900 เมตร ทำให้คณะนักวิจัยประเมินว่าหลุมอุกกาบาตนี้มีแรงพุ่งชนเทียบเท่าระเบิดทีเอ็นที 6 แสนตัน
อดีตที่ผ่านมามีการค้นพบหลุมอุกกาบาตเพียง 4 แห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ไม่มีการค้นพบร่องรอยหลุมอุกกาบาตในภาคใต้ของจีนมาเป็นเวลานาน เนื่องจากเกิดภาวะเสื่อมสลายตามการผุพังทางเคมีและชีวะขั้นรุนแรงของชั้นหินระดับพื้นผิวในภูมิภาค
การค้นพบเหล่านี้จึงเป็นข้อมูลเชิงลึกล้ำค่าต่อการศึกษาหลุมอุกกาบาตทั่วโลก โดยเฉพาะพื้นที่อากาศอบอุ่นและร้อนชื้นและกึ่งเขตร้อน รวมถึงช่วยขยับขยายข้อมูลการกระจายตัวเชิงพื้นที่ระดับโลกของเหตุการณ์อุกกาบาตขนาดเล็กพุ่งชนโลก
(แฟ้มภาพซินหัว : หลุมอุกกาบาตจินหลินที่อำเภอเต๋อชิ่ง มณฑลกว่างตงทางตอนใต้ของจีน)