ปารีส, 20 ต.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันอาทิตย์ (19 ต.ค.) พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum) ในกรุงปารีสของฝรั่งเศส ปิดไม่ให้ประชาชนเข้าชมด้วย "เหตุผลพิเศษ" หลังเกิดเหตุโจรกรรมเครื่องประดับ 9 ชิ้นที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์สูง ทว่าไม่มีผู้บาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว
รายงานระบุว่าเมื่อตอน 09.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น มีกลุ่มคนร้าย 4 คนบุกเข้ามายังห้องอะพอลโล แกลลอรี (Apollo Gallery) ซึ่งจัดแสดงเครื่องราชกกุธภัณฑ์ของราชวงศ์ฝรั่งเศสที่หลงเหลืออยู่และสมบัติล้ำค่าอื่นๆ โดยคนร้ายใช้รถกระเช้ายกตัวขึ้นไปทางหน้าต่างของอาคาร ก่อนใช้เครื่องตัดเหล็กตัดกระจกหน้าต่างของห้องจัดแสดง และหลบหนีไปด้วยสกูตเตอร์หลังจากก่อเหตุ
ผู้ก่อเหตุมุ่งเป้าขโมยสร้อยคอประดับไพลินของราชินีมารีอา อะเมเลีย และราชินีออร์แตนซ์ รวมถึงมงกุฎเพชรของจักรพรรดินีเออเจนี โดยระหว่างหลบหนีคนร้ายได้ทิ้งของกลางไว้ 1 ชิ้น ซึ่งถูกพบในสภาพเสียหายใกล้พิพิธภัณฑ์
โลรองต์ นูเญซ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายในฝรั่งเศส ซึ่งลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์ ระบุว่าสิ่งของที่ถูกขโมยไปนั้นมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่ประเมินไม่ได้ โดยพิพิธภัณฑ์ฯ และกระทรวงวัฒนธรรมกำลังจัดทำบัญชีรายการสิ่งของที่ถูกขโมยและประเมินมูลค่า และหวังว่าคนร้ายจะถูกจับได้ในไม่ช้า
เมื่อถูกถามถึงช่องโหว่ของระบบรักษาความปลอดภัย นูเญซยอมรับว่าพิพิธภัณฑ์ฝรั่งเศสมีความเปราะบางสูง โดยฝ่ายบริหารของพิพิธภัณฑ์ฯ ได้เคยเตือนมาก่อนแล้วถึงปัญหาโครงสร้างพื้นฐานที่ส่งผลต่อการอนุรักษ์และความปลอดภัยของของสะสมภายในพิพิธภัณฑ์ฯ ระหว่างรอโครงการบูรณะครั้งใหญ่
ราชิดา ดาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยกับสื่อว่าอาชญากรรมที่จัดทำอย่างเป็นระบบทุกวันนี้มุ่งเป้าไปที่งานศิลปะ ทำให้พิพิธภัณฑ์ตกเป็นเป้าหมาย
ด้านเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ประณามเหตุการณ์นี้ผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) โดยระบุว่าเป็นการโจมตีต่อมรดกที่เราทุกคนหวงแหนเพราะมันคือประวัติศาสตร์ของชาวฝรั่งเศส พร้อมยืนยันว่าคนร้ายจะต้องถูกนำตัวมาลงโทษตามกฎหมาย
ทั้งนี้ เหตุโจรกรรมครั้งล่าสุดที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ที่เคยมีการบันทึกไว้เกิดขึ้นในปี 1998 โดยมีการขโมยภาพวาดไปในช่วงกลางวัน และยังไม่ได้กลับคืนมา
(แฟ้มภาพซินหัว : ชายสวมหน้ากากอนามัยเดินผ่านพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ที่ปิดทำการในกรุงปารีสของฝรั่งเศส วันที่ 19 ก.พ. 2021)