ปักกิ่ง, 22 ก.ค. (ซินหัว) -- รัฐบาลท้องถิ่นจีนหลายแห่งออกแผนกระตุ้นการบริโภครูปแบบใหม่ โดยเน้นกระแสไชน่า-ชิก (China-chic) หรือสินค้าและวัฒนธรรมแบบจีนสมัยใหม่ ผนวกกับการบริโภคเชิงดิจิทัล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและปรับโฉมการบริโภคให้สอดคล้องกับความต้องการยุคใหม่
กรุงปักกิ่งได้มีการเปิดร้านค้าและร้านกาแฟแนววัฒนธรรมตามแนวคิด “ของขวัญสไตล์ปักกิ่ง” และร้านเสื้อผ้าแบรนด์บีเจเอชจี (BJHG) เป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ผ่านสินค้าแบบไชน่า-ชิก ทั้งยังออกแผนขยายการบริโภคแฟชั่น โดยเน้นสร้างกิจกรรม สร้างแบรนด์ และสร้างบรรยากาศในเมือง
ขณะเดียวกัน เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงได้สนับสนุนธุรกิจท้องถิ่นใช้เทคโนโลยีใหม่ เช่น โมเดลปัญญาประดิษฐ์ อินเทอร์เน็ตโฮโลกราฟิก และระบบเลือกสินค้าอัจฉริยะ เพื่อออกแบบประสบการณ์บริโภคแบบดิจิทัล พร้อมเปิดตัวแผนที่นำทางยามค่ำคืนและพื้นที่บริโภคยามค่ำคืนตามถนนและตรอกซอยรวม 100 แห่ง
ด้านมณฑลซานซีเร่งผลักดันแบรนด์สินค้าจากมรดกวัฒนธรรมจีนและเน้นเชื่อมโยงเอไอกับการบริโภค ขณะที่นครเซี่ยงไฮ้ส่งเสริมการแสดงในโรงละครเล็กแบบเน้นการมีส่วนร่วม สนับสนุนภาคธุรกิจในการใช้ประโยชน์จากสวนจีนโบราณและร่วมงานกับเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับมรดกทางวัฒนธรรม แอนิเมชัน และไชน่า-ชิก เพื่อพัฒนาการแสดงแนววัฒนธรรมและการท่องเที่ยว
ผู้เชี่ยวชาญจากคลังสมองแห่งหนึ่งในปักกิ่งชี้ว่า เทคโนโลยีใหม่ แนวคิดสร้างสรรค์ใหม่ และความต้องการใหม่ๆ ได้เร่งให้เกิดรูปแบบการบริโภคใหม่ๆ ขึ้นอย่างรวดเร็ว และการผสานรูปแบบการบริโภคในหลากหลายภาคส่วน ยังช่วยกระตุ้นความต้องการบริโภคเพิ่มเติม ซึ่งทั้งหมดนี้ได้กลายเป็นเรื่องสำคัญของรัฐบาลท้องถิ่นในการส่งเสริมการบริโภค
จีนมียอดค้าปลีกในเดือนพฤษภาคม 2025 เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 เมื่อเทียบปีต่อปี สูงกว่าเดือนเมษายน โดยสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้ายกระดับการใช้ชีวิตยังเติบโตต่อเนื่อง
โจวอวิ๋นหาน รองผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาค สำนักพยากรณ์เศรษฐกิจของศูนย์สารสนเทศจีน ระบุว่ารูปแบบการบริโภคใหม่นั้นสะท้อนผลจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การพัฒนาของอุตสาหกรรม และพฤติกรรมผู้บริโภค โดยเฉพาะเอไอซึ่งเริ่มมีบทบาทมากขึ้นในตลาดผู้บริโภค
นโยบายของรัฐยังเริ่มให้ความสำคัญกับแนวโน้มเหล่านี้ โดยรายงานการทำงานของรัฐบาลได้ระบุถึงการเร่งสร้างฉากทัศน์การบริโภคที่หลากหลาย อัจฉริยะ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมออกแผนกิจกรรม “เอไอพลัส” (AI+) และขยายพื้นที่ในตลาดในประเทศและต่างประเทศสำหรับสินค้าผลิตในจีนและสินค้าไชน่า-ชิก
ในระยะยาวคาดว่ารูปแบบและวิถีการบริโภคใหม่จะพัฒนาเร็วขึ้น ขณะที่ผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะมีความหลากหลายยิ่งขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มที่จะแก้ไขปัญหาความไม่สอดคล้องระหว่างอุปสงค์และอุปทานได้ และจะช่วยขับเคลื่อนการยกระดับด้านอุปทานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
(เรียบเรียงโดย Duan Jing, Xinhua Silk Road, https://en.imsilkroad.com/p/346543.html)
(แฟ้มภาพซินหัว : นักท่องเที่ยวในงานนิทรรศการอุตสาหกรรมวัฒนธรรมนานาชาติจีน (เซินเจิ้น) ครั้งที่ 21 วันที่ 23 พ.ค. 2025)