เตหะราน, 26 มิ.ย. (ซินหัว) -- วันพฤหัสบดี (26 มิ.ย.) สภาพิทักษ์รัฐธรรมนูญของอิหร่านอนุมัติแผนการระงับความร่วมมือของอิหร่านกับทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) หลังจากที่รัฐสภาอิหร่านได้รับรองไว้แล้วก่อนหน้านี้
ฮาดี ตาฮัน นาซิฟ โฆษกสภาฯ เผยว่าแผนดังกล่าวซึ่งเรียกร้องให้รัฐบาลอิหร่านระงับความร่วมมือกับทบวงฯ ได้รับการตรวจสอบโดยสภาฯ แล้ว และพบว่าสอดคล้องกับกฎระเบียบทางศาสนา กฎหมาย และรัฐธรรมนูญของอิหร่าน
เมื่อพิจารณาจากการที่สหรัฐฯ และอิสราเอลละเมิดอำนาจอธิปไตยของอิหร่าน โจมตีบูรณภาพแห่งดินแดนและฐานปฏิบัติการทางนิวเคลียร์เพื่อสันติภาพ รวมทั้งคุกคามผลประโยชน์ของชาติ รัฐบาลอิหร่านมีหน้าที่ต้องระงับความร่วมมือกับทบวงฯ เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่ไม่สามารถรับรองได้เลยว่าอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของอิหร่านจะได้รับการเคารพอย่างเต็มที่ ทั้งยังไม่อาจรับประกันความปลอดภัยของศูนย์นิวเคลียร์และนักวิทยาศาสตร์ของอิหร่าน
ตาฮัน นาซิฟเสริมว่าแผนดังกล่าวยังเน้นย้ำถึงการปกป้องสิทธิด้านนิวเคลียร์โดยชอบธรรมของอิหร่าน ซึ่งรวมถึงการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมบนดินแดนของตนเองด้วย
อนึ่ง สภาพิทักษ์รัฐธรรมนูญในอิหร่านมีอำนาจอย่างมากเหนือกฎหมายที่ผ่านโดยรัฐสภา โดยจะทำหน้าที่ตรวจสอบร่างกฎหมายทั้งหมดเพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับกฎหมายศาสนาอิสลามและรัฐธรรมนูญ อีกทั้งมีอำนาจยับยั้งการออกกฎหมาย และกระบวนการร่างกฎหมายจะเสร็จสิ้นจนกลายเป็นกฎหมายก็ต่อเมื่อสภาฯ เห็นชอบแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. อิสราเอลได้โจมตีหลายพื้นที่ของอิหร่านทางอากาศครั้งใหญ่ รวมถึงฐานปฏิบัติการทางนิวเคลียร์และฐานทัพ ทำให้ผู้บัญชาการระดับสูง นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ และพลเรือนเสียชีวิต โดยอิหร่านตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธและส่งโดรนโจมตีอิสราเอลหลายระลอก ทำให้มีผู้บาดเจ็บเสียชีวิตและความเสียหายหนัก
วันเสาร์ (21 มิ.ย.) กองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้โจมตีฐานปฏิบัติการทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน 3 แห่ง ได้แก่ ฟอร์โดว์ นาตันซ์ และอิสฟาฮาน ด้านอิหร่านตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพอากาศอัลอุไดด์ของสหรัฐฯ ในกาตาร์เมื่อวันจันทร์ (23 มิ.ย.) ที่ผ่านมา
หลังจากสงครามที่ดำเนินเป็นระยะเวลา 12 วัน อิหร่านและอิสราเอลได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงแล้วเมื่อวันอังคาร (24 มิ.ย.)
(แฟ้มภาพซินหัว : ธงชาติอิหร่าน ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ในนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ วันที่ 8 ม.ค. 2020)