(แฟ้มภาพซินหัว : คนงานท่าเรือหยุดงานประท้วงถือป้ายยืนอยู่ที่ทางเข้าท่าเรือเมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนาทางตอนใต้ของสหรัฐฯ วันที่ 2 ต.ค. 2024)
นิวยอร์ก, 4 ต.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพฤหัสบดี (3 ต.ค.) สมาคมคนงานท่าเรือระหว่างประเทศ (ILA) ซึ่งเป็นสหภาพแรงงานทางทะเลขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ประกาศการบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับค่าจ้างกับผู้ประกอบการและกลับมาทำงานทั้งหมดโดยทันที หลังจากหยุดงานประท้วงครั้งใหญ่ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1977
สมาคมฯ ซึ่งเป็นตัวแทนคนงานท่าเรือทั่วชายฝั่งตะวันออกและชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐฯ ราว 45,000 คน และกลุ่มพันธมิตรการเดินเรือสหรัฐฯ (USMX) ซึ่งเป็นตัวแทนผู้ประกอบธุรกิจขนส่งทางทะเลและผู้ประกอบการท่าเรือ ได้เห็นพ้องจะขยายระยะเวลาของข้อตกลงหลักจนถึงวันที่ 15 ม.ค. 2025 เพื่อเกื้อหนุนการเจรจาประเด็นคงค้างอื่นๆ ทั้งหมด
เหล่าคนงานท่าเรือทั่วชายฝั่งตะวันออกและชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐฯ จำนวน 36 แห่ง ได้หยุดงานประท้วงตั้งแต่วันอังคาร (1 ต.ค.) หลังจากข้อตกลงหลักก่อนหน้านี้สิ้นอายุเมื่อวันที่ 30 ก.ย. โดยการหยุดงานประท้วงครั้งนี้เป็นที่สนใจของทั่วโลกและสร้างความวิตกกังวลถึงผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน เศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อ และการเลือกตั้งของสหรัฐฯ
รายงานระบุว่าร้านค้าปลีกรายใหญ่และซูเปอร์มาเก็ตในหลายรัฐฯ ของสหรัฐฯ มีลูกค้าแห่เข้าซื้อสินค้าเพื่อกักตุนของเมื่อวันพฤหัสบดี (3 ต.ค.) และมีเรือตู้คอนเทนเนอร์ต้องจอดรออยู่กลางน่านน้ำนอกท่าเรือหลายแห่งของสหรัฐฯ เพราะการหยุดงานประท้วงมากกว่า 40 ลำ
โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เผยว่าเขาจะไม่ใช้พระราชบัญญัติแทฟท์-ฮาร์ตลีย์ (Taft-Hartley Act) เพื่อยุติการหยุดงานประท้วงนี้ พร้อมแสดงการสนับสนุนคนงานและสั่งการเจ้าหน้าที่ระดับสูงเดินหน้าการเจรจาต่อไป
ฮาโรลด์ ดักเก็ตต์ ประธานสมาคมฯ กล่าวว่าสมาคมฯ เรียกร้องการขึ้นค่าจ้างชั่วโมงละ 5 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 165 บาท) ในแต่ละปีของระยะเวลา 6 ปีในข้อตกลงหลักฉบับใหม่ ขณะเดียวกันสมาคมฯ ต้องการความชัดเจนที่สุดว่าจะไม่มีระบบอัตโนมัติหรือกึ่งอัตโนมัติในการดำเนินงานท่าเรือ และเงินค่าธรรมเนียมตู้คอนเทนเนอร์ (Container Royalty) จะเข้าสมาคมฯ ทั้งหมด
รายงานเสริมว่าข้อเรียกร้องขึ้นค่าจ้างของสมาคมฯ คิดเป็นอัตราเติบโตร้อยละ 77 ในช่วง 6 ปีข้างหน้า ขณะกลุ่มพันธมิตรฯ เห็นพ้องจะขึ้นค่าจ้างเกือบร้อยละ 50
เดอะวอลล์ สตรีท เจอร์นัล อ้างอิงคนวงในว่าความคืบหน้าเชิงบวกนี้เกิดขึ้นหลังจากกลุ่มพันธมิตรฯ เสนอการขึ้นค่าจ้างร้อยละ 62 ในช่วง 6 ปีข้างหน้า ทว่ารายละเอียดของข้อตกลงการขึ้นค่าจ้างยังไม่ถูกเปิดเผยออกมาในปัจจุบัน