(แฟ้มภาพซินหัว : โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารที่สนามกีฬาแคปิตอล วัน อารีนา ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ของสหรัฐฯ วันที่ 20 ม.ค. 2025)
วอชิงตัน, 21 ม.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันจันทร์ (20 ม.ค.) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานระดับชาติในคำสั่งฝ่ายบริหาร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงาน
คำสั่งฝ่ายบริหารระบุว่าการจัดหาพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่เพียงพอในสหรัฐฯ เป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาพลังงานเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชาวอเมริกัน โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้ต่ำและรายได้คงที่ พร้อมกล่าวถึงปัจจัยอื่นๆ ที่ถูกนำมาพิจารณาเพื่อประกาศภาวะฉุกเฉิน อาทิ ความมั่นคงด้านพลังงาน นโยบายต่างประเทศ และนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี
คำสั่งข้างต้นกำหนดให้ผู้นำกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ดำเนินงานเพื่อสนับสนุนการขนส่ง การกลั่น การผลิตทรัพยากรพลังงานภายในประเทศ ฯลฯ โดยที่ไม่จำกัดเฉพาะบนที่ดินของรัฐบาลกลาง พร้อมกล่าวถึงความพยายามหลากหลายด้านเพื่อเร่งการใช้งานโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน
ขณะเดียวกัน สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ จะพิจารณาผ่อนผันมาตรการด้านเชื้อเพลิงฉุกเฉิน เพื่อให้การจัดจำหน่ายน้ำมันเบนซินอี15 (E15) ตลอดทั้งปีช่วยจัดการปัญหาขาดแคลนน้ำมันเบนซินชั่วคราวทั่วสหรัฐฯ
ทรัมป์ยังลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารแยกอีกฉบับเพื่อเพิ่มการพัฒนาและผลิตทรัพยากรธรรมชาติในรัฐอะแลสกา โดยเร่งกระบวนการอนุญาตและการให้เช่าโครงการพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ พร้อมทั้งมุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการก๊าซธรรมชาติเหลว
การประกาศภาวะฉุกเฉินรูปแบบนี้ครั้งแรกโดยรัฐบาลกลางสหรัฐฯ คาดว่าจะเอื้อให้รัฐบาลกลางสามารถเพิ่มการผลิตพลังงานผ่านการใช้อำนาจฉุกเฉิน โดยสหรัฐฯ เป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุด และยังเป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลวรายใหญ่ที่สุดในโลกเช่นกัน