ลอนดอน, 18 มิ.ย. (ซินหัว) -- คอลัมน์ล่าสุดในไฟแนนเชียล ไทม์ส (Financial Times) ระบุว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคภาคเอกชนในจีนเติบโตกว่าร้อยละ 8 ต่อปีในศตวรรษที่ 21 เมื่อพิจารณาในแง่ของมูลค่าที่แท้จริง ซึ่งเติบโตเร็วกว่ากลุ่มประเทศเศรษฐกิจใหญ่แห่งอื่นๆ
รูจีร์ ชาร์มา คอลัมนิสต์และประธานของร็อกกีเฟลเลอร์ อินเตอร์เนชันนัล (Rockefeller International) กล่าวว่าความเชื่อที่ว่าการบริโภคของจีนยังอ่อนแอนั้น ส่วนใหญ่อ้างอิงจากสัดส่วนการบริโภคต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งอยู่ที่ราวร้อยละ 40 ทว่าสัดส่วนดังกล่าวมีอิทธิพลจากอัตราการลงทุนในทรัพย์สินประเภททุนในเศรษฐกิจจีนที่สูงเป็นพิเศษ
ชาร์มาอธิบายว่าสาเหตุของความผิดปกตินี้ไม่ได้เป็นเพราะการบริโภคเติบโตช้า แต่เป็นเพราะองค์ประกอบหลักอื่นๆ ของจีดีพี อย่างการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน อสังหาริมทรัพย์ หรืออุตสาหกรรมส่งออก ซึ่งเติบโตเร็วกว่าเฉลี่ยที่ร้อยละ 10 ต่อปีในศตวรรษนี้ เมื่อปรับตามปัจจัยเหล่านี้ ส่วนแบ่งการบริโภคในจีดีพีของจีนจะใกล้เคียงกับร้อยละ 55 ซึ่งเป็นระดับที่สอดคล้องกับบรรทัดฐานสากลมากขึ้น
ชาร์มาระบุว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวจีนเติบโตเร็วกว่าหลายประเทศผู้นำด้านการผลิตในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย หรือมาเลเซีย พร้อมเสริมว่าเมื่อกลุ่มประเทศที่มีปาฏิหาริย์ทางเศรษฐกิจ (miracle economies) รุ่นแรกบรรลุระดับการพัฒนาที่ใกล้เคียงกับจีนในปัจจุบัน พวกเขากลับประสบกับการชะลอตัวด้านการเติบโตของการใช้จ่ายของผู้บริโภคเช่นกัน ขณะที่สัญญาณการชะลอตัวของการบริโภคล่าสุดกระจุกตัวอยู่ในบางภาคส่วนเท่านั้น และไม่ควรนำมาตีความเกินจริง
ชาร์มากล่าวอีกว่าหากวิเคราะห์ให้ลึกขึ้น การเติบโตของการบริโภคที่ดูเหมือนจะชะลอตัวนั้นเกิดขึ้นในภาคบริการ ไม่ใช่สินค้า แต่ความจริงข้อนี้บางส่วนก็อาจเป็นเพียงภาพลวง เพราะหากนำบริการต่างๆ ที่รัฐบาลจีนจัดหาให้ฟรีหรือมีราคาถูก เช่น การรักษาพยาบาลและการศึกษา มาคำนวณรวมด้วยแล้ว จะพบว่าสัดส่วนการบริโภคในจีดีพีเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
(แฟ้มภาพซินหัว : ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าที่ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยทางตอนกลางของจีน วันที่ 9 มิ.ย. 2025)