เฉิงตู, 18 มิ.ย. (ซินหัว) -- ปัจจุบันผู้บริโภคชาวจีนในเมืองเฉิงตู มณฑลซื่อชวน (เสฉวน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน สามารถลิ้มรสความหวานหอมของผลไม้ไทย เช่น ทุเรียนและมะพร้าวน้ำหอม ได้อย่างสะดวกสบายผ่านการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิบนทางรถไฟจีน-ลาว ซึ่งถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ของการค้าและขนส่งผลไม้ข้ามพรมแดนจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เมื่อไม่นานนี้ รถไฟขนส่งผลไม้สดอย่างทุเรียนหมอนทองและมะพร้าวน้ำหอมจากไทยขบวนหนึ่งได้วิ่งถึงด่านรถไฟระหว่างประเทศเฉิงตู ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของการขนส่งผลไม้แบบผสมจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลังการเปิดบริการขนส่งทุเรียนบนขบวนรถไฟจีน-ลาว (ขากลับ) ในปีนี้ โดยผลไม้ที่ขนส่งมีมูลค่ารวมสูงถึง 12 ล้านหยวน (ราว 54 ล้านบาท) และใช้บริการขนส่งด่วนทางรางสายล้านช้าง-แม่โขง-เฉิงตู

ทุเรียนถือเป็นดาวเด่นในตลาดผลไม้นำเข้าของจีน โดยการนำเข้าในอดีตใช้วิธีขนส่งทางถนนนาน 7-9 วัน และมีอัตราการสูญเสียทุเรียนราวร้อยละ 10 ส่วนการนำเข้าในปัจจุบันใช้วิธีขนส่งทางรางอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งการขนส่งจากไทยตรงสู่เฉิงตูใช้เวลาเร็วที่สุดราว 72 ชั่วโมง และมีอัตราการสูญเสียทุเรียนเกือบเป็นศูนย์

รายงานระบุว่ามีการออกแบบตู้คอนเทนเนอร์อัจฉริยะที่สามารถควบคุมความชื้นและอุณหภูมิตลอดการขนส่งอยู่ที่ 13 องศาเซลเซียส พร้อมเทคโนโลยีปรับปรุงการไหลเวียนของอากาศภายในตู้คอนเทนเนอร์ให้สามารถกระจายความเย็นอย่างทั่วถึง ซึ่งลดความเสี่ยงสูญเสียผลไม้เพราะความเย็นจัดหรือผลไม้เน่าเสียเพราะความเย็นไม่ถึง

ขณะเดียวกันมีการปรับการเดินรถไฟให้วิ่งถึงปลายทางในเมืองเฉิงตูหลัง 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อกลุ่มผู้ค้าสามารถเข้ารับผลไม้ในคืนเดียวกันและกระจายสินค้าไปยังตลาดแห่งต่างๆ ในช่วงข้ามคืนสู่เช้าวันใหม่ ซึ่งการกระจายสินค้าตอนกลางคืนที่อากาศเย็นกว่าตอนกลางวันช่วยรักษาความสดใหม่ของผลไม้ได้ดียิ่งขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ทางรถไฟจีน-ลาวลดต้นทุนการขนส่งทุเรียนไทยและผลไม้อื่นๆ จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากถึงร้อยละ 60 ทำให้ราคาขาย ณ ปลายทางถูกลงร้อยละ 30 ซึ่งช่วยดึงดูดใจผู้ซื้อ โดยตอนนี้ราคาทุเรียนหมอนทองในเฉิงตูอยู่ที่ราว 20 กว่าหยวน (ราว 90 บาท) ต่อครึ่งกิโลกรัม

รายงานเสริมว่าทุเรียนไทยที่ศูนย์การค้าผลิตภัณฑ์การเกษตรนานาชาติซื่อชวน อวี่รุ่น นำเข้าราวร้อยละ 80 ยังคงอยู่ในเฉิงตูหรือเมืองอื่นๆ ในมณฑลซื่อชวน ขณะอีกราวร้อยละ 20 กระจายไปยังพื้นที่อื่นๆ ของจีน โดยปริมาณการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นช่วยให้ราคาทุเรียนเป็นมิตรกับเงินในกระเป๋าของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นตามไปด้วย