(แฟ้มภาพซินหัว : รถยนต์ไฟฟ้าบีเอ็มดับเบิลยู ไอ5 (BMW i5) ที่โรงงานของบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู บริลเลียนซ์ ออโตโมทีฟ จำกัด ในเมืองเสิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิงทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน วันที่ 8 ม.ค. 2024)

เสิ่นหยาง, 19 เม.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันศุกร์ (18 เม.ย.) บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากเยอรมนี ประกาศว่าบริษัทฯ จะกระชับความร่วมมือกับไบต์แดนซ์ (ByteDance) บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของติ๊กต็อก (TikTok) เพื่อยกระดับการปรับใช้ปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) ในด้านการตลาดและการบริการลูกค้า

ความร่วมมือครั้งนี้มุ่งเน้นการประยุกต์ใช้เอไอในระบบนิเวศการตลาดยานยนต์ ผ่านการทำงานร่วมกับวอลเคโน เอนจิน (Volcano Engine) แพลตฟอร์มบริการบนคลาวด์ของไบต์แดนซ์ ซึ่งตั้งเป้ายกระดับประสบการณ์การซื้อรถยนต์อัจฉริยะและปรับปรุงประสิทธิภาพการให้บริการแก่ผู้ใช้งาน

ตามแผนความร่วมมือ บริษัทหลิงเย่ว์ ดิจิทัล อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (Digital Information Technology) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบีเอ็มดับเบิลยูและเป็นแพลตฟอร์มหลักสำหรับนวัตกรรมดิจิทัลของผู้ผลิตยานยนต์ในจีนจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีโมเดลภาษาขนาดใหญ่ขั้นสูงของไบต์แดนซ์เพื่อใช้เครื่องมือทางการตลาดอัจฉริยะที่ปรับแต่งขึ้นมาสำหรับบีเอ็มดับเบิลยูโดยเฉพาะ

ด้านฌอน กรีน ประธานและซีอีโอของบริษัทบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ภูมิภาคจีน กล่าวว่าบริษัทฯ กำลังเร่งบูรณาการเทคโนโลยีเอไอเข้ากับทุกภาคส่วนทางธุรกิจ ตั้งแต่การวิจัยและการพัฒนา การผลิต ห่วงโซ่อุปทาน ผลิตภัณฑ์ บริการ และการดำเนินงาน ซึ่งการกระชับความร่วมมือกับไบต์แดนซ์ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินกลยุทธ์ที่สำคัญในด้านเอไอของบริษัทฯ

บีเอ็มดับเบิลยูกำลังขยายการดำเนินงานในจีนอย่างแข็งขัน โดยมีหุ้นส่วนที่เป็นซัพพลายเออร์ท้องถิ่นราว 460 ราย และบริษัทฯ กำลังเร่งขยายความร่วมมือกับหุ้นส่วนด้านเทคโนโลยีของจีน โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างโมเดลภาษาขนาดใหญ่ ปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (generative AI) และระบบสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะ

"จีนกลายเป็นเครื่องยนต์ของนวัตกรรมระดับโลก" ฌอน กรีน กล่าว พร้อมสำทับว่าบีเอ็มดับเบิลยูกำลังใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญด้านการบูรณาการระบบของตน เพื่อยกระดับความร่วมมือกับหุ้นส่วนในจีน ผ่านการร่วมมือกับหุ้นส่วนด้านเทคโนโลยีชั้นนำของจีนด้านการวิจัยและพัฒนา รวมถึงการสร้างสรรค์ร่วมกัน

อนึ่ง เมื่อเดือนมีนาคม บีเอ็มดับเบิลยูได้ประกาศขยายความร่วมมือกับยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีนรายอื่นๆ พร้อมระบุว่าจะทำงานร่วมกับอาลีบาบา (Alibaba) เพื่อบูรณาการเอไอของโมเดลภาษาขนาดใหญ่เข้าในโมเดลรถยนต์รุ่นนอย คลาสเซอ (Neue Klasse) และร่วมมือกับหัวเหวย (Huawei) เพื่อพัฒนาระบบดิจิทัลภายในรถยนต์ที่ออกแบบมาสำหรับตลาดจีนโดยเฉพาะ

ปัจจุบัน บีเอ็มดับเบิลยูมีศูนย์วิจัยและพัฒนาในปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหยาง และหนานจิง ซึ่งเป็นเครือข่ายการวิจัยและพัฒนานอกประเทศเยอรมนีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของบริษัทฯ

บทความก่อนหน้า

ยอดนักท่องเที่ยวจีนเยือน 'นครวัด' เพิ่ม 38% ติดอันดับที่ 5 ช่วงไตรมาสแรก 2025

บทความถัดไป

ชาวต่างชาติ 1.83 ล้านคน เที่ยว 'กัมพูชา' ในไตรมาสแรก