(แฟ้มภาพซินหัว : สิงอวิ้นจิ้ง ติดแผ่นรายชื่อบนผนังรำลึกถึงผู้บริจาคร่างกายและอวัยวะที่ห้องรำลึกของมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์เทียนจินในเทศบาลนครเทียนจินทางตอนเหนือของจีน วันที่ 2 เม.ย. 2025)
(แฟ้มภาพซินหัว : นักศึกษาวางดอกไม้ที่ผนังรำลึกแด่ผู้บริจาคร่างกายและอวัยวะที่มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์เทียนจินในเทศบาลนครเทียนจินทางตอนเหนือของจีน วันที่ 2 เม.ย. 2025)
เทียนจิน, 8 เม.ย. (ซินหัว) -- สิงอวิ้นจิ้ง วัย 67 ปี อาสาสมัครวัยเกษียณของห้องรำลึกประจำมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์เทียนจินของจีน เอื้อมมือติดป้ายชื่อบนผนังรำลึกเพื่อเพิ่มรายชื่อผู้บริจาคร่างกายสำหรับการศึกษาทางการแพทย์ โดยสิงได้เพิ่มชื่อของผู้บริจาค 229 ราย ก่อนเทศกาลชิงหมิงหรือเช็งเม้งในปีนี้ ทำให้จำนวนชื่อทั้งหมดอยู่ที่ 1,200 ชื่อแล้ว
ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา สิงได้ช่วยเหลือครอบครัวเกือบ 400 ครอบครัว เติมเต็มความต้องการของบุคคลอันเป็นที่รักผู้ล่วงลับ ตั้งแต่ทหารผ่านศึกจนถึงเยาวชนที่จากไปก่อนวัยอันควรด้วยโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งทั้งหมดเลือกบริจาคร่างกายหรืออวัยวะของตัวเอง โดยผู้บริจาคอายุน้อยที่สุดคือ 1 ขวบ ส่วนอายุมากที่สุดคือ 106 ปี
พ่อแม่และลุงของสิงเป็นผู้บริจาคร่างกายเช่นเดียวกัน และสิงมาเป็นอาสาสมัครหลังจากปลดเกษียณในปี 2017 ด้วยแรงบันดาลใจจากสมาชิกครอบครัวอันเป็นที่รักเหล่านี้ เพื่อช่วยเหลือผู้บริจาคที่มีจิตใจเสียสละอุทิศร่างกายหรือกระจกตาของตนเองสำหรับงานทางวิทยาศาสตร์
สังคมจีนมีความเชื่อดั้งเดิมว่าการฝังศพนำพาผู้ล่วงลับสู่สุคติ การบริจาคร่างกายหรืออวัยวะจึงเคยเป็นเรื่องท้าทายอันยากจะยอมรับ ทว่าทัศนคติความเชื่อนี้ทยอยเปลี่ยนแปลงไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยจำนวนผู้คนที่เลือกลงทะเบียนบริจาคร่างกายหรืออวัยวะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ ข้อมูลจากศูนย์บริหารการบริจาคอวัยวะแห่งประเทศจีนระบุว่าปัจจุบันมีประชาชนในจีนลงทะเบียนบริจาคร่างกายหรืออวัยวะโดยสมัครใจมากกว่า 7 ล้านคนแล้ว
เจียงขุย แพทย์ประจำแผนกระบบทางเดินอาหารของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์เทียนจิน ซึ่งพบชื่อครูประถมของเขา "จางหงจวิน" และภรรยาของคุณครูบนผนังรำลึก กล่าวอย่างซาบซึ้งใจว่าทั้งสองอุทิศทั้งชีวิตและร่างกายเพื่อการศึกษา นำพาความหวังมาสู่ผู้ป่วยหลายรายและช่วยนักศึกษากลายเป็นแพทย์ที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้น
ขณะที่หานอวี่ซี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 ของมหาวิทยาลัยฯ กล่าวว่าเธอไม่เคยรู้ข้อมูลของผู้บริจาคเลยเวลาเรียนวิชากายยวิภาคศาสตร์ แต่ตอนนี้การสัมผัสชื่อของพวกเขา ทำให้ตระหนักได้ว่าการบริจาคร่างกายหรืออวัยวะของพวกเขาได้ขยับขยายสายธารแห่งองค์ความรู้ทางการแพทย์ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น