(แฟ้มภาพซินหัว : เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติโชว์การชงกาแฟให้ผู้เยี่ยมชมงานแสดงสินค้าอุปโภคบริโภคนานาชาติจีน ครั้งที่ 4 ในนครไห่โข่ว มณฑลไห่หนานทางตอนใต้ของจีน วันที่ 16 เม.ย. 2024)
เจนีวา, 27 ก.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันพฤหัสบดี (26 ก.ย.) องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) เผยแพร่ดัชนีนวัตกรรมโลก (GII) ปี 2024 ซึ่งระบุว่าจีนขยับขึ้นหนึ่งอันดับมาอยู่อันดับ 11 ในการจัดอันดับประเทศที่มีนวัตกรรมมากที่สุดของโลก ทำให้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตทางนวัตกรรมเร็วที่สุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา
รายงานระบุว่าจีนยังคงเป็นประเทศรายได้ปานกลางแห่งเดียวที่ติดอยู่ใน 30 อันดับแรกของกลุ่มประเทศที่มีนวัตกรรมมากที่สุดของโลก ซึ่งห้าอันดับแรกสุด ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ สวีเดน สหรัฐฯ สิงคโปร์ และสหราชอาณาจักร
สำหรับดัชนีนวัตกรรมโลก ฉบับที่ 17 ซึ่งถือเป็นเกณฑ์มาตรฐานสำคัญสำหรับแนวโน้มทางนวัตกรรมระดับโลก ชี้ให้เห็นว่าแม้บางประเทศมีการพัฒนาทางนวัตกรรมอย่างรวดเร็ว แต่ภูมิทัศน์ทางนวัตกรรมในวงกว้างยังคงเผชิญความท้าทาย
รายงานเสริมว่าการระดมเงินร่วมลงทุนลดลงประมาณร้อยละ 40 ในปี 2023 สวนทางกับการเพิ่มขึ้นในช่วงปี 2020-2022 ขณะเดียวกันการใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาเติบโตช้าลง กอปรกับการยื่นจดสิทธิบัตรระหว่างประเทศและการเผยแพร่ผลงานทางวิทยาศาสตร์ลดลงด้วย
อย่างไรก็ดี ดาร์เรน ถัง ผู้อำนวยการใหญ่องค์การฯ กล่าวว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยียังคงแข็งแกร่งในปี 2023 โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับสุขภาพ เช่น การจัดลำดับจีโนมหรือพันธุกรรม ตลอดจนพลังการประมวลผลและแบตเตอรี่ไฟฟ้า
"มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น โดยเฉพาะสัญญาณ 5G หุ่นยนต์ และยานยนต์ไฟฟ้า" ถังกล่าว พร้อมเสริมว่าตัวชี้วัดหลักของดัชนีฯ ในปีนี้แสดงทิศทางเชิงบวก โดยความยากจนทั่วโลกลดลง ขณะผลิตภาพแรงงานและอายุคาดเฉลี่ยเพิ่มขึ้น