(แฟ้มภาพซินหัว : ประชาชนเดินผ่านร้านค้าในนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ วันที่ 11 พ.ค. 2022)
นิวยอร์ก, 13 ธ.ค. (ซินหัว) -- ข้อมูลจากสำนักงานสำมะโนประชากรสหรัฐฯ ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (12 ธ.ค.) ระบุว่าปู่ย่าตายายที่อาศัยอยู่กับหลานและดูแลหลานมีจำนวนน้อยลง ขณะที่จำนวนเด็กเล็กที่ไปโรงเรียนเตรียมอนุบาลลดลงเช่นกัน โดยประชาชนจำนวนมากเลือกที่จะอยู่บ้านกันมากขึ้นในช่วงครึ่งแรกของทศวรรษ 2020 เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งหลังของทศวรรษ 2010
สำนักข่าวเอพีรายงานเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดยระบุว่าตัวเลขล่าสุดมาจากการสำรวจชีวิตชาวอเมริกันที่ครอบคลุมที่สุดเปรียบเทียบระหว่างปี 2014-2018 และปี 2019-2023 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) และช่วงเวลาระหว่างที่ไวรัสแพร่กระจาย โดยข้อมูลจากการสำรวจชุมชนชาวอเมริกันแสดงให้เห็นถึงชีวิตและความสัมพันธ์ในครอบครัวที่เปลี่ยนแปลงไปจากการระบาดใหญ่และเหตุการณ์อื่นๆ อาทิ วิกฤตโอปิออยด์สังเคราะห์
อนึ่ง การสำรวจครอบครัว 3.5 ล้านครัวเรือน ครอบคลุมหัวข้อต่างๆ มากกว่า 40 หัวข้อ อาทิ เชื้อสาย ภาวะเจริญพันธุ์ สถานภาพสมรส กิจวัตรการเดินทาง สถานะทหารผ่านศึก ความพิการ และที่อยู่อาศัย
รายงานระบุว่าการที่ปู่ย่าตายายดูแลหลานน้อยลงอาจเกิดจากอัตราการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโอปิออยด์สังเคราะห์ที่คงที่และลดลงในช่วงเวลาหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ เนื่องจากการใช้สารเสพติดเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ปู่ย่าตายายต้องมาเลี้ยงดูหลาน