ไท่หยวน, 4 พ.ย. (ซินหัว) -- เมื่อไม่นานนี้ "คาราวานมิตรภาพไทย-จีน" จากสมาคมมิตรภาพไทย-จีน จำนวน 50 คน ได้เดินทางขึ้นเหนือด้วยรถยนต์หลายคันจากริมแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพฯ ผ่านภูมิภาคระดับมณฑลหลายแห่งของจีน ทั้งอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) กุ้ยโจว หูหนาน หูเป่ย ส่านซี และซานซี ก่อนถึงกรุงปักกิ่งอันเป็นจุดหมายปลายทาง
การเดินทางไกลจากเมืองหลวงของไทยสู่เมืองหลวงของจีนครั้งนี้จัดเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-ไทย มีระยะทางมากกว่า 5,000 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลา 16 วัน (10-25 ต.ค.) และยานยนต์ไฟฟ้าแบรนด์จีนที่ผลิตในไทย จำนวน 13 คัน
เจิ้งจินหง หรือ ดร. พรชัย พรศิริโกศล รองประธานสมาคมฯ และหัวหน้าคาราวานมิตรภาพไทย-จีน กล่าวว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้ขับรถผ่านพื้นที่ส่วนใหญ่ของจีน เยือนภูมิภาคต่างๆ ที่ไม่เคยไป ถือเป็นประสบการณ์ที่ทุกคนประทับใจอย่างยิ่ง ด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดสรร "ทูตการท่องเที่ยว" ร่วมเดินทางด้วย 4 คน
จวงจวิ้นหง หรือวิทยา จักรเพ็ชร หนึ่งในสมาชิกคาราวาน เล่าความประทับใจจากการที่ชาวบ้านท้องถิ่นเมืองจิ่งหง แคว้นปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ได้สวมชุดกลุ่มชาติพันธุ์ไทและจัดพิธี "ซานเต้าฉา" หรือการดื่มชา 3 รส เพื่อต้อนรับคณะเดินทางอย่างอบอุ่น
เจิ้งหมิงหมิ่น ประธานสมาคมชาอี้อู่ในอำเภอเหมิ่งล่า อธิบายว่าพิธีซานเต้าฉาเป็นพิธีต้อนรับแขกผู้มีเกียรติสูงสุด ชาถ้วยแรกคือ "ชาดิบ" อันหมายถึงความสดใหม่ ชาถ้วยสองคือ "ชาสุก" อันหมายถึงความสนิทสนมคุ้นเคยกัน และชาถ้วยสามคือ "ชาหมัก" อันหมายถึงมิตรภาพจีน-ไทยที่ยิ่งยาวนานยิ่งแน่นแฟ้นดังเช่นชาผู่เอ๋อร์ที่ยิ่งหมักบ่มยิ่งหอมละมุน
เจิ้งก่านมี่ หรือพัชรพร พรศิริโกศล ย้อนเล่าความประทับใจตอนปีนเขาเทียนเหมินซานในเมืองจางเจียเจี้ยของมณฑลหูหนาน ซึ่งคนไทยมองว่าการขึ้นถึงยอดเขาเทียนเหมินซานที่สูงเสียดฟ้าถือเป็นสัญลักษณ์ความโชคดี โดยแม้สมาชิกคาราวานส่วนใหญ่เป็นวัยกลางคนถึงวัยสูงอายุ แต่ทุกคนมุ่งมั่นให้กำลังใจกันตลอดทางจนพิชิตยอดเขาได้
อนึ่ง จางเจียเจี้ย ซึ่งเป็นเมืองพี่เมืองน้องกับพัทยาในปี 2019 ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยมากกว่า 40,000 คน หลังจากจีนและไทยดำเนินนโยบายยกเว้นวีซ่าซึ่งกันและกันในปี 2024 และไทยเป็นหนึ่งในสิบแหล่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติชั้นนำของพื้นที่ชมวิวจางเจียเจี้ยในช่วงเดือนมกราคม-กันยายนของปีนี้ด้วย
นอกจากทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามแล้ว การพัฒนาอย่างรวดเร็วของบรรดาเมืองรองในจีนยังสร้างความประทับใจแก่คาราวานมิตรภาพไทย-จีน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสีเขียวอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งสมาชิกคาราวานมองว่าเป็นแบบอย่างอันดีสำหรับประเทศอื่นๆ ในการพัฒนาอย่างยั่งยืน
หลังจากผ่านการเดินทางไกลอันน่าจดจำครั้งนี้ เหล่าสมาชิกคาราวานมิตรภาพไทย-จีน ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า "จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน" มิได้เป็นเพียงแค่คำขวัญทั่วไป แต่เป็นดังเส้นใยผูกโยงหัวใจของประชาชนทั้งสองประเทศ โดยวิทยาเสริมพร้อมรอยยิ้มว่าครั้นความสัมพันธ์จีน-ไทยครบ 100 ปี หวังว่าจะมี "คาราวานมิตรภาพ" จากปักกิ่งสู่กรุงเทพมหานครด้วย

(ภาพจากผู้ให้สัมภาษณ์ : คาราวานมิตรภาพไทย-จีน ถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึกที่เมืองจางเจียเจี้ย มณฑลหูหนานทางตอนกลางของจีน)

(ภาพจากผู้ให้สัมภาษณ์ : คาราวานมิตรภาพไทย-จีน ถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก บริเวณพื้นที่ชมวิวภูเขาเทียนเหมินซาน เมืองจางเจียเจี้ย มณฑลหูหนานทางตอนกลางของจีน)

(แฟ้มภาพซินหัว : สมาคมมิตรภาพแห่งประชาชนมณฑลซานซีมอบรูปปั้นกวนอูเป็นของขวัญที่ระลึกให้คาราวานมิตรภาพไทย-จีน วันที่ 22 ต.ค. 2025)

(ภาพจากผู้ให้สัมภาษณ์ : คาราวานมิตรภาพไทย-จีน ถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก บริเวณหน้าสนามกีฬาแห่งชาติหรือสนามกีฬารังนกในกรุงปักกิ่งของจีน)

(ภาพจากผู้ให้สัมภาษณ์ : คาราวานมิตรภาพไทย-จีน เดินทางถึงจุดหมายปลายทางที่สนามกีฬาแห่งชาติ หรือสนามกีฬารังนก ในกรุงปักกิ่งของจีน)