ไคโร, 10 ก.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพุธ (9 ก.ค.) หลี่เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน พบปะหารือกับอาเหม็ด อาบูล-เกต เลขาธิการสันนิบาตอาหรับ ในกรุงไคโรของอียิปต์ โดยหลี่เผยว่าจีนสนับสนุนกลุ่มประเทศอาหรับในการเสริมแกร่งความเป็นอิสระทางยุทธศาสตร์ ยกระดับความเป็นหนึ่งเดียวและการพึ่งพาตนเอง และแสวงหาการพัฒนาบนเส้นทางที่เหมาะสมกับเงื่อนไขของประเทศตน

หลี่ชี้ว่าจีนมองและพัฒนาความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศอาหรับจากมุมมองเชิงยุทธศาสตร์เสมอมา และสนับสนุนเหตุผลอันชอบธรรมของกลุ่มประเทศอาหรับ โดยจีนและกลุ่มประเทศอาหรับเป็นมิตรสหายที่ไว้ใจได้และเป็นหุ้นส่วนที่ดี และปัจจุบันความสัมพันธ์จีน-อาหรับกำลังเข้าสู่ช่วงที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ ภายใต้การชี้นำเชิงยุทธศาสตร์ของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงและผู้นำกลุ่มประเทศอาหรับ

จีนพร้อมเสริมสร้างความสัมพันธ์ฉันมิตรกับสันนิบาตอาหรับ ยกระดับความไว้วางใจทางยุทธศาสตร์กับกลุ่มประเทศอาหรับ กระชับความร่วมมือในหลายสาขา ทำงานร่วมกันเพื่อเดินหน้าการสร้างความทันสมัย และสร้างประชาคมจีน-อาหรับที่มีอนาคตร่วมกันในระดับสูงยิ่งขึ้น

หลี่กล่าวว่าจีนพร้อมปรับกลยุทธ์การพัฒนาให้สอดคล้องกับกลุ่มประเทศอาหรับต่อไปและเดินหน้าความร่วมมือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ที่มีคุณภาพสูง พร้อมเรียกร้องทั้งสองฝ่ายขยายความร่วมมือด้านพลังงาน เศรษฐกิจและการค้า การลงทุนและการเงิน รวมถึงการบินและอวกาศและสาขาอื่นๆ ตลอดจนสำรวจศักยภาพความร่วมมือในสาขาเกิดใหม่อย่างพลังงานใหม่ ปัญญาประดิษฐ์ เศรษฐกิจดิจิทัล และเศรษฐกิจสีน้ำเงิน

ฝ่ายจีนยังพร้อมจะทำงานร่วมกับกลุ่มประเทศอาหรับเพื่อส่งเสริมการพัฒนาโครงการเรือธงที่สำคัญและโครงการ "เล็กแต่สวยงาม" (small but beautiful) เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสองฝ่ายยิ่งขึ้น

หลี่กล่าวว่าทั้งสองฝ่ายควรยกระดับการหารือในหมู่อารยธรรมและการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน กระชับความร่วมมือในกลุ่มคนรุ่นใหม่ สถาบันคลังสมอง มหาวิทยาลัย รวมถึงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ตลอดจนสำรวจการดำเนินมาตรการเพิ่มเติมสำหรับเกื้อหนุนการแลกเปลี่ยนบุคลากร เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน

นอกจากนี้ หลี่กล่าวว่าฝ่ายจีนพร้อมจะยกระดับการสื่อสารและการประสานงานกับกลุ่มประเทศอาหรับในหลายเวที เช่น องค์การสหประชาชาติ องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ องค์การการค้าโลก และกลุ่มประเทศจี20 (G20) เพื่อแสดงถึงเจตนารมณ์ร่วมกันและส่งเสริมระบบธรรมาภิบาลโลกที่เป็นธรรมและเท่าเทียมกันมากขึ้น

ทั้งนี้ หลี่ยังแสดงความหวังว่าสันนิบาตอาหรับจะยังคงมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-อาหรับ และทำงานร่วมกันเพื่อรับรองว่าการประชุมสุดยอดจีน-รัฐอาหรับ ครั้งที่สอง ในปี 2026 จะบรรลุผลสำเร็จ

บทความก่อนหน้า

เฮยหลงเจียงพบ 'พืชป่าหายาก' ปรากฏโฉมอีกครั้งในรอบ 33 ปี

บทความถัดไป

Asia Album : ชาวศรีลังกาตัดแต่ง-แปรรูป 'อบเชย' ผลักดันเป็นพืชส่งออก