นิวเดลี, 31 พ.ค. (ซินหัว) -- กองทัพอินเดียยืนยันเป็นครั้งแรกเมื่อวันเสาร์ (31 พ.ค.) ว่าได้สูญเสียเครื่องบินรบในระหว่างการปะทะกับปากีสถานเมื่อไม่นานนี้ในเดือนพฤษภาคม
สื่ออินเดียรายงานว่า การยืนยันดังกล่าวมาจาก พลเอกอนิล เชาฮาน (Anil Chauhan) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอินเดีย (CDS) ขณะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนต่างประเทศในสิงคโปร์ อย่างไรก็ตาม เชาฮานไม่ได้เปิดเผยถึงจำนวนเครื่องบินรบที่อินเดียสูญเสียไป
เชาฮานกล่าวกับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์ก (Bloomberg TV) ว่า "ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญไม่ใช่แค่ว่าเครื่องบินตก แต่คือทำไมมันถึงตก" พร้อมกล่าวว่า "ข้อดีของเรื่องนี้คือทำให้เราเข้าใจความผิดพลาดทางยุทธวิธีที่เกิดขึ้น แก้ไขและปรับปรุงมัน และสามารถนำแผนกลับมาใช้ใหม่อีกครั้งภายในสองวัน โดยสามารถส่งเครื่องบินทั้งหมดออกบินอีกครั้ง และโจมตีเป้าหมายจากระยะไกลได้สำเร็จ"
เชาฮานเดินทางไปยังสิงคโปร์เพื่อเข้าร่วมการประชุมเสวนาแชงกรี-ลา (Shangri-La Dialogue) ซึ่งเป็นเวทีด้านกลาโหมและความมั่นคงระดับสูงของเอเชีย
ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอินเดียระบุว่า การคาดการณ์ของปากีสถานที่กล่าวว่าได้ยิงเครื่องบินรบอินเดียตกถึง 6 ลำนั้น "ไม่ถูกต้องอย่างสิ้นเชิง" แต่ก็ยังปฏิเสธที่จะให้ตัวเลขที่แน่ชัดว่าอินเดียสูญเสียเครื่องบินไปกี่ลำ
ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม อินเดียและปากีสถานต่างโจมตีอีกฝ่ายด้วยการใช้เครื่องบินรบ ขีปนาวุธ โดรน และการยิงกระสุนปืนใหญ่ ในพื้นที่ชายแดนใกล้พรมแดนระหว่างประเทศ (International Border) และแนวเส้นควบคุม (Line of Control) ซึ่งแบ่งแคชเมียร์ออกเป็นสองส่วน
ทั้งสองประเทศยังได้โจมตีฐานทัพอากาศของอีกฝ่ายในระหว่างการปะทะดังกล่าว ส่งผลให้ความตึงเครียดระหว่างกันพุ่งสูงอย่างมาก
หลังการสู้รบอย่างดุเดือดเป็นเวลาสี่วัน อินเดียและปากีสถานก็ตกลงยุติปฏิบัติการทางทหาร และเริ่มปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งยังคงมีผลบังคับใช้จนถึงขณะนี้
(แฟ้มภาพซินหัว : เจ้าหน้าที่กองกำลังกึ่งทหารชาวอินเดียประจำการที่จุดตรวจ ขณะมีการปรับใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมากขึ้น ในเมืองศรีนาการ์ เมืองหลวงฤดูร้อนของแคชเมียร์ ส่วนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของอินเดีย เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2025)