ฉงชิ่ง, 25 พ.ค. (ซินหัว) -- เยาวภา แสงจันทร์ บล็อกเกอร์ด้านท่องเที่ยวจากประเทศไทย เยี่ยมชมงานมหกรรมการลงทุนและการค้าระหว่างประเทศแห่งภูมิภาคจีนตะวันตก ครั้งที่ 7 (7th Western China International Fair for Investment and Trade - WCIFIT) พร้อมถ่ายทอดสดพูดคุยกับแฟนคลับผ่านโซเชียลมีเดีย โดยเธอกล่าวว่ามหกรรมนี้แค่เดินชมวันเดียวก็ได้เห็นสินค้าจากหลากหลายประเทศทั่วโลก จึงรู้สึก "สดใหม่และน่าสนใจมาก"
งานมหกรรมฯ จัดขึ้นที่เทศบาลนครฉงชิ่ง ทางตะวันตกของจีน ระหว่างวันที่ 22-25 พ.ค. ถือเป็นเวทีเจรจาการลงทุนระดับนานาชาติที่สำคัญของภูมิภาคจีนตะวันตก โดยมีบริษัทจาก 39 ประเทศและภูมิภาคเข้าร่วมกว่า 1,300 แห่ง และในปีนี้ไทยยังได้รับเกียรติให้เป็นประเทศเกียรติยศด้วย
ผู้แทนจากสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตูของไทย เปิดเผยว่าพื้นที่จัดแสดงของประเทศไทยในงานนี้มีขนาดใหญ่ถึง 600 ตารางเมตร มีบริษัทไทยเข้าร่วมกว่า 40 แห่ง นำเสนอสินค้าหลากหลาย ทั้งยังมีการแสดงวัฒนธรรมไทย เช่น การรำไทยให้ชมกันอย่างใกล้ชิด
เยาวภากล่าวว่าพาวิลเลียนของไทยนับเป็นหนึ่งในพื้นที่จัดแสดงที่ใหญ่ที่สุดของงาน และตนได้เห็นสินค้าจากบ้านเกิดจำนวนมากที่นี่ ซึ่งล้วนเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพจากไทย เช่น ผลไม้ น้ำมันหอมระเหย อาหารสำเร็จรูป และผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย และรู้สึกดีใจมากที่ได้เห็นว่าผู้ประกอบการทั้งในจีนและต่างประเทศต่างให้ความสนใจสินค้าไทย พร้อมเผยว่าตนได้ซื้อยาหม่องและยากันยุงไว้ใช้เองด้วย
มหกรรมฯ เป็นเวทีสำคัญด้านการลงทุนของภูมิภาคจีนตะวันตก เพราะทั้งดึงดูดนักธุรกิจต่างชาติให้เข้ามาหาโอกาสทางธุรกิจและลงทุน และยังดึงดูดผู้ประกอบการทั้งจีนและต่างประเทศเข้ามาร่วมงาน ทดลองสินค้า และจับจ่ายซื้อขายกันอย่างคึกคัก ข้อมูลระบุว่าเพียงวันแรกงานมหกรรมฯ มูลค่าของโครงการต่างๆ ที่มีการลงนามกันในสถานที่จัดงานก็ทะลุ 2 แสนล้านหยวน (ราว 9.02 แสนล้านบาท) แล้ว
เยาวภามองว่างานนี้ยังเป็นเวทีสำคัญแห่งความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมด้วย เพราะเธอได้ลองเล่นเครื่องดนตรีพื้นเมืองที่บูธอียิปต์ ได้เห็นเครื่องประดับคริสตัลจากอุรุกวัย พรมขนสัตว์ทำมือจากปากีสถาน และงานฝีมือจากเคนยา ซึ่งทั้งตัวสินค้าและเสน่ห์ของวัฒนธรรมล้วนสร้างความประทับใจให้ผู้ที่แวะะเวียนมาเยี่ยมชม เธอระบุด้วยว่าผู้ประกอบการจากหลากหลายประเทศรวมถึงไทย ต่างมองเห็นศักยภาพในการเติบโตของตลาดจีน
ปี 2025 ยังเป็นวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนกับไทย ซึ่งงานมหกรรมฯ ครั้งนี้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศ ขณะเดียวกันกระแส "เที่ยวจีน" (China Travel) ที่กำลังมาแรง ก็ทำให้มีนักท่องเที่ยวไทยจำนวนมากขึ้นเลือกเดินทางมาท่องเที่ยวและจับจ่ายในนครฉงชิ่ง
เยาวภาเผยว่า ในอนาคตเธอจะยังคงใช้วิดีโอและโซเชียลมีเดียในการแบ่งปันประสบการณ์ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมที่ได้พบในฉงชิ่งกับแฟนๆ ชาวไทย พร้อมหวังว่าเพื่อนๆ ชาวไทยจะได้มีโอกาสเดินทางมาท่องเที่ยว ลงทุน และสัมผัสกับพลังและโอกาสของจีนด้วยตนเอง
(แฟ้มภาพซินหัว : เยาวภา แสงจันทร์ บล็อกเกอร์ด้านท่องเที่ยวจากประเทศไทย ทดลองสินค้าในมหกรรมการลงทุนและการค้าระหว่างประเทศแห่งภูมิภาคจีนตะวันตก ครั้งที่ 7 เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2025)
(แฟ้มภาพซินหัว : เยาวภา แสงจันทร์ บล็อกเกอร์ด้านท่องเที่ยวจากประเทศไทย ทดลองสินค้าในมหกรรมการลงทุนและการค้าระหว่างประเทศแห่งภูมิภาคจีนตะวันตก ครั้งที่ 7 เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2025)
(แฟ้มภาพซินหัว : เยาวภา แสงจันทร์ บล็อกเกอร์ด้านท่องเที่ยวจากประเทศไทย เข้าชมบูธสินค้าไทย ในมหกรรมการลงทุนและการค้าระหว่างประเทศแห่งภูมิภาคจีนตะวันตก ครั้งที่ 7 เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2025)
(แฟ้มภาพซินหัว : เยาวภา แสงจันทร์ บล็อกเกอร์ด้านท่องเที่ยวจากประเทศไทย เข้าชมบูธสินค้าไทย ในมหกรรมการลงทุนและการค้าระหว่างประเทศแห่งภูมิภาคจีนตะวันตก ครั้งที่ 7 เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2025)