นิวยอร์ก, 17 พ.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันศุกร์ (16 พ.ค.) เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล (WSJ) อ้างอิงข้อมูลจากกลุ่มหน่วยงานกำกับดูแล ธนาคาร และเอกสารภายใน รายงานว่าเมตา แพลตฟอร์มส์ (Meta Platforms) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก (Facebook) และอินสตาแกรม (Instagram) กลายเป็นเสาหลักสำคัญของเศรษฐกิจการฉ้อโกงบนอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
รายงานระบุว่าเมตามีส่วนรับผิดชอบต่อการฉ้อโกงเกือบครึ่งหนึ่งของรายงานการฉ้อโกงทั้งหมดของเจพีมอร์แกนเชส (JPMorgan Chase) บนเซล (Zelle) ช่วงระหว่างฤดูร้อนปี 2023-2024 โดยเซล ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการชำระเงินของกลุ่มธนาคารยักษ์ใหญ่หลายแห่ง รวมถึงเจพีมอร์แกน ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ และเวลส์ ฟาร์โก (Wells Fargo) ส่วนธนาคารอื่นๆ ที่ให้บริการเซลพบการเรียกร้องถูกฉ้อโกงจากเมตาจำนวนมากเช่นเดียวกัน
หน่วยงานกำกับดูแลของสหราชอาณาจักรและออสเตรเลียพบการฉ้อโกงในระดับคล้ายกันที่มีต้นตอจากแพลตฟอร์มของเมตา ส่วนการวิเคราะห์ภายในจากปี 2022 ที่ระบุในเอกสารของเมตาพบเช่นกันว่าร้อยละ 70 ของผู้โฆษณาที่เพิ่งเริ่มใช้งานบนแพลตฟอร์มกำลังโปรโมตการฉ้อโกง สินค้าผิดกฎหมาย หรือผลิตภัณฑ์ "คุณภาพต่ำ"
รายงานชี้ว่าด้วยจำนวนผู้ใช้แพลตฟอร์มของเมตากว่า 3 พันล้านคนต่อวัน การฉ้อโกงจึงไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับบริษัทฯ แต่ด้วยการเติบโตของสกุลเงินดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติขนาดใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้เมตาเผชิญปัญหาการฉ้อโกงเพิ่มมากขึ้น และพนักงานได้แจ้งการพบปัญหาดังกล่าวเป็นประจำตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ พนักงานปัจจุบันและอดีตของเมตาระบุว่าบริษัทฯ ไม่ต้องการเพิ่มอุปสรรคให้กับลูกค้าที่ซื้อโฆษณาซึ่งทำให้ธุรกิจโฆษณาของเมตาเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 เมื่อปี 2024 จนมีมูลค่ามากกว่า 1.6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.34 ล้านล้านบาท) และแม้จะพิสูจน์ได้ว่าผู้ใช้เคยมีประวัติฉ้อโกงมาก่อน แต่เมตากลับไม่ได้ระงับการใช้งานของพวกเขา
(แฟ้มภาพซินหัว : ผู้คนสัมผัสประสบการณ์การใช้งานเมตา แพลตฟอร์มส์ที่โซนนิทรรศการพิเศษด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ณ งานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติจีน (CIIE) ครั้งที่ 5 ในเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออกของจีน วันที่ 5 พ.ย. 2022)