ปักกิ่ง, 4 เม.ย. (ซินหัว) -- หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ "ควาฟู่" (Kuavo) ความสูง 1.7 เมตร คอยทำหน้าที่ต้อนรับแขก ตอบคำถามผู้มาเยี่ยมชม และแนะนำเส้นทางแก่แขกผู้มาร่วมการประชุมจงกวนชุน ปี 2025 จนกลายเป็นภาพที่หลายคนคุ้นตาภายในศูนย์นวัตกรรมนานาชาติจงกวนชุน ในกรุงปักกิ่ง

ควาฟู่พัฒนาโดยเล่อจวี้ โรโบติกส์ (Leju Robotics) บริษัทที่มีฐานอยู่ในนครเซินเจิ้น หุ่นยนต์ตัวนี้มีความสามารถการรับรู้ขั้นสูง ปัจจุบันถูกนำไปใช้งานในมหาวิทยาลัย ห้องจัดแสดงนิทรรศการ และโรงงานยานยนต์ ทั้งเตรียมนำไปใช้งานในบ้านเรือนและให้บริการอื่นๆ ในอนาคต โดยมียอดคำสั่งซื้อในไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม) มากถึง 250 ตัว สูงกว่าเป้าหมายที่บริษัทวางไว้สำหรับครึ่งปีแรก

หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วด้วยแรงหนุนจากปัญญาประดิษฐ์ โดยขยายขอบเขตการใช้งานทั้งในภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือน ข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศจีนเผยว่าจีนมีสิทธิบัตรเกี่ยวกับหุ่นยนต์กว่า 1.9 แสนฉบับ คิดเป็นราวสองในสามของสิทธิบัตรทั้งหมดทั่วโลก

ด้านสถาบันอิเล็กทรอนิกส์ของจีนระบุว่าตลาดหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ของจีนคาดว่าจะเติบโตถึง 8.7 แสนล้านหยวน (ราว 4.08 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2030

ปัจจุบันมีหุ่นยนต์ขั้นสูงหลายรุ่นเข้าสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์แล้ว เช่น หุ่นยนต์เทียนกง อัลตรา (Tiangong Ultra) พัฒนาโดยศูนย์นวัตกรรมหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์แห่งปักกิ่ง สามารถวิ่งเร็ว 12 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และก้าวขึ้นขั้นบันไดสูง 35 เซนติเมตร ซึ่งกำลังเตรียมพร้อมร่วมแข่งขันวิ่งมาราธอนหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่กำลังจะมาถึง

ขณะเดียวกัน วอล์กเกอร์ เอส1 (Walker S1) ซึ่งพัฒนาโดยยูบีเทค (UBTECH) บริษัทเทคโนโลยีในเซินเจิ้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณภาพที่โรงงานผลิตของอาวดี้ (Audi)

แรงสนับสนุนจากรัฐบาลช่วยเร่งการพัฒนาหุ่นยนต์ประเภทนี้ โดยเมื่อไม่นานมานี้ปักกิ่งได้เปิดตัวแผนปฏิบัติการสามปีสำหรับนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์แบบมีตัวตนและการเติบโตของอุตสาหกรรม พร้อมให้ทุนสนับสนุน 1 แสนล้านหยวน (ราว 4.69 แสนล้านบาท) โครงการริเริ่มที่คล้ายคลึงกันนี้กำลังดำเนินการอยู่ในมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ซื่อชวน (เสฉวน) และซานซี

เจ้าหน้าที่จากสำนักเศรษฐกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศกรุงปักกิ่ง เปิดเผยว่าปักกิ่งได้กำหนดให้ปัญญาประดิษฐ์แบบมีตัวตนเป็นจุดเน้นสำคัญสำหรับการพัฒนาเอไอยุคถัดไป ซึ่งขณะนี้กำลังเปลี่ยนผ่านจากขั้นตอนการวิจัยไปสู่เชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ

หวังฉีโจว รองผู้จัดการทั่วไปของบริษัทยูนิทรี โรโบติกส์ (Unitree Robotics) ย้ำถึงความพยายามการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการเปลี่ยนผ่านจากระบบโมเดลที่ผ่านการฝึกอบรมมาแล้ว (pre-trained) ไปสู่ระบบปรับตัวอัตโนมัติ

บทความก่อนหน้า

กลุ่มอุตสาหกรรมจีนค้านสหรัฐฯ จ่อเลิกยกเว้นภาษี 'พัสดุมูลค่าต่ำ

บทความถัดไป

สีสัน 'ทะเลสาบเขิ่นซือหว่าเท่อ' ในซินเจียง งดงามราวภาพวาด