ปักกิ่ง, 4 เม.ย. (ซินหัว) -- อำเภอไท่หนิง มณฑลฝูเจี้ยนทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ได้เปลี่ยนแนวทางเดินสายส่งไฟฟ้าให้กลายเป็นเขตเศรษฐกิจพืชทนไฟ ด้วยการปลูกพุ่มไม้เตี้ย อย่างต้นชาคามิเลียที่เมล็ดให้น้ำมัน แทนพืชพรรณสูงที่ติดไฟง่าย

ไท่หนิงตั้งอยู่ในพื้นที่ภูมิอากาศมรสุมกึ่งร้อนชื้นทางตะวันตกเฉียงเหนือของฝูเจี้ยน ซึ่งส่งผลให้พืชพรรณเติบโตเร็วและหนาทึบจนการบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานเป็นเรื่องยาก ด้าน เจิ้งหัว หัวหน้าทีมปฏิบัติการสายส่งของบริษัทสเตตกริด ไท่หนิง พาวเวอร์ ซัพพลาย กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ เราต้องระดมทรัพยากรมหาศาลทุกฤดูใบไม้ผลิเพื่อตัดแต่งพืชสูงใต้แนวสายไฟ เพื่อป้องกันไฟป่าและปัญหาไฟฟ้าขัดข้อง”

ต้นชาน้ำมันคามิเลียที่นำมาใช้ใหม่นั้นมีคุณสมบัติโดดเด่น ทั้งเปลือกที่หนาและใบที่อุ้มน้ำได้ดี จึงช่วยป้องกันไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีมูลค่าเศรษฐกิจสูง โดยน้ำมันที่สกัดจากเมล็ดชาซึ่งรู้จักกันในชื่อ “น้ำมันมะกอกแห่งตะวันออก” มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวมากกว่าร้อยละ 85 และกำลังเป็นที่ต้องการในตลาด

นับตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นมา โครงการปรับเปลี่ยนพืชพรรณใต้สายส่งไฟฟ้านี้ได้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยความร่วมมือจากทั้งรัฐบาล บริษัทพลังงาน และกลุ่มอาสาสมัคร โดยรัฐบาลได้มอบเงินอุดหนุนและจัดโครงการประชาสัมพันธ์ ขณะที่บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญารวมกลุ่มกับหมู่บ้านต่างๆ ส่วนเหล่าอาสาสมัครรับหน้าที่ดำเนินการปลูกและดูแลพืชพรรณ

ด้วยความร่วมมืออย่างเป็นระบบ ไท่หนิงสามารถสร้าง “แนวกันไฟชีวภาพ” ครอบคลุมพื้นที่แล้วกว่า 210 หมู่ (ราว 87 ไร่) ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ ราว 1,300 หยวนต่อหมู่ (ราว 6,000 บาท)

(เรียบเรียงโดย Li Shimeng, Xinhua Silk Road, https://en.imsilkroad.com/p/344952.html)

บทความก่อนหน้า

‘หนอนไหม’ ตัวจิ๋ว สร้างอุตสาหกรรมสมัยใหม่ใน ‘กว่างซี’

บทความถัดไป

ชาวปาเลสไตน์เร่งขนของอพยพ หลังอิสราเอลเตือนภัย