ปักกิ่ง, 16 ม.ค. (ซินหัว) – เมืองหลินอี๋ ในมณฑลซานตงทางตะวันออกของจีน กำลังเร่งดำเนินการพัฒนาร่วมกันด้านการค้า คลังสินค้า และระบบโลจิสติกส์ มุ่งสร้างแรงขับเคลื่อนใหม่ใหม่ผ่านการสร้างโครงสร้างพื้นฐานคลังสินค้าและโลจิสติกส์ที่ทันสมัยของเมือง รวมถึงการสำรวจตลาดต่างประเทศ

เมืองหลินอี๋ถือเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านอุตสาหกรรมค้าส่ง โดยเป็นแหล่งรวมตัวของกลุ่มก้อนบริษัทตลาดค้าส่งมืออาชีพที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ โดยมีตลาดค้าส่งมืออาชีพ 131 แห่ง มีพนักงานจำนวน 3 แสนคน และรวมสินค้าโภคภัณฑ์มากกว่า 6 ล้านประเภท

ธุรกิจที่คึกคักของเมืองได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากระบบขนส่งที่ใช้ต้นทุนต่ำแต่มีประสิทธิภาพสูง โดยมีทางหลวงสำหรับการขนส่งมากกว่า 3,000 เส้นทาง ทำให้ใช้เวลาแค่หนึ่งวันในการส่งสินค้าระยะทาง 600 กม. ใช้เวลาส่งสินค้าสองวันในระยะทาง 800 กม. และใช้เวลาส่งสินค้าแค่สามวันในระยะทาง 1,500 กม.

เมืองหลินอี๋ยังดำเนินการพัฒแบบูรณาการระหว่างธุรกิจ คลังสินค้า และโลจิสติกส์ ทั้งยังมีการลงทุนจำนวนมหาศาลในศูนย์โลจิสติกส์แห่งใหม่ของเมืองในเขตหลานซาน เพื่อให้ทันกับการขยายตัวของธุรกิจและการค้า โดยเริ่มย้ายศูนย์โลจิสติกส์เก่าทั้ง 39 แห่งที่เคยกระจายอยู่ทั่วเมืองไปยังศูนย์โลจิสติกส์แห่งใหม่ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2024

ศูนย์โลจิสติกส์แห่งใหม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดยมีระบบที่เรียกว่า "คลังสินค้าชั้นบนและโลจิสติกส์ชั้นล่าง" ซึ่งช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถขยายขอบเขตธุรกิจไปตามห่วงโซ่อุปทาน ช่วยลดต้นทุนสำหรับผู้ผลิตที่ต้นน้ำและเพิ่มปริมาณสินค้าสำหรับตัวแทนจำหน่ายที่ปลายน้ำ

นอกจากนี้ เมืองหลินอี๋ยังเร่งพัฒนาระบบโลจิสติกส์ให้ทันสมัย มีความเป็นสากล ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และสร้างการพัฒนาสีเขียว รวมถึงพยายามที่จะปั้นตัวเองเป็นศูนย์กลางการขนส่งแบบครบวงจร

(เรียบเรียงโดย Niu Huizhe, Xinhua Silk Road, https://en.imsilkroad.com/p/343955.html)

บทความก่อนหน้า

จีนยังคงโฟกัสภาคเศรษฐกิจจริง ส่งเสริมอุตสาหกรรมสมัยใหม่คุณภาพสูง

บทความถัดไป

‘ไฟฟ้าหลินอี๋’ ออกแบบการใช้ไฟฟ้าสำหรับธุรกิจท้องถิ่น