ปักกิ่ง, 13 ม.ค. (ซินหัว) -- วันจันทร์ (13 ม.ค.) หวังลิ่งจวิ้น รองหัวหน้าสำนักบริหารศุลกากรทั่วไปของจีน กล่าวว่าจีนไม่ได้มุ่งสร้างภาวะการค้าเกินดุล และดุลการค้าของประเทศเป็นไปตามแรงขับเคลื่อนของตลาดระหว่างประเทศ มิใช่เพราะการแทรกแซงโดยเจตนา
หวังร่วมงานแถลงข่าวเกี่ยวกับการค้าของจีนในปี 2024 และตอบคำถามเกี่ยวกับการค้าเกินดุลว่าการส่งออก การนำเข้า และดุลการค้าที่อยู่ในระดับพิเศษของจีนเป็นผลจากพลวัตทางอุปทานและอุปสงค์ระหว่างประเทศ การแบ่งงานทางอุตสาหกรรม และการแข่งขันในตลาด
ภาวะการค้าเกินดุลของจีนที่คิดเป็นอัตราส่วนร้อยละของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) นั้นอยู่ในระดับสมเหตุสมผลและลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากจุดสูงเป็นประวัติการณ์ในอดีต โดยภาวะการค้าเกินดุลของจีนยังคงต่ำกว่าภาวะการค้าเกินดุลของประเทศส่งออกรายใหญ่แห่งอื่นๆ
หวังชี้ว่าบางประเทศกำหนดมาตรการควบคุมการส่งออกกับจีนอย่างเข้มงวดยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นนโยบายที่ขัดแย้งสวนทางกัน โดยจีนต้องการเพิ่มการนำเข้า แต่หากไม่ปล่อยสินค้าเข้ามาแล้วกังวลเกี่ยวกับการค้าเกินดุลของจีน นั่นเป็นสิ่งที่ไม่สอดคล้องกันโดยธรรมชาติ
จีนดำเนินงานกระจายการนำเข้าอย่างจริงจัง ซึ่งเห็นได้จากงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติจีน (CIIE) การปรับลดภาษีศุลกากร และการขยายการเข้าถึงตลาด โดยมาตรการเหล่านี้เพิ่มปริมาณการนำเข้าจนสูงเป็นประวัติการณ์ ช่วยให้นานาประเทศและธุรกิจต่างๆ ได้ประโยชน์จากโอกาสในตลาดจีน สนับสนุนการเติบโตทางการค้าที่สมดุลยิ่งขึ้น
นอกจากนั้นหวังกล่าวถึงลัทธิกีดกันทางการค้าที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยอ้างอิงข้อมูลจากรายงานการค้าโลกประจำปี 2024 ขององค์การการค้าโลก (WTO) ซึ่งเตือนว่านโยบายกีดกันทางการค้าจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของทุกประเทศ
แม้เผชิญอุปสรรคจากปัจจัยภายนอก หวังกล่าวว่าจีนยังคงมุ่งมั่นขยับขยายการเปิดกว้าง คัดค้านลัทธิกีดกันทางการค้า และสนับสนุนความร่วมมือที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ โดยจีนจะเดินหน้าเปิดกว้างอย่างตั้งใจแน่วแน่ บ่มเพาะความร่วมมือ แบ่งปันโอกาส และส่งเสริมการพัฒนากับทุกประเทศผ่านการปฏิบัติงานอันเป็นรูปธรรม
(แฟ้มภาพซินหัว : สถานีตู้คอนเทนเนอร์ของท่าเรือเหลียนอวิ๋นกั่ง มณฑลเจียงซูทางตะวันออกของจีน วันที่ 3 ม.ค. 2025)