หางโจว, 27 ก.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันพุธ (25 ก.ย.) เอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ของไทย และหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ซึ่งเป็นประเทศเกียรติยศประจำงานมหกรรมการค้าดิจิทัลโลก ครั้งที่ 3 ในนครหางโจว มณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่าวิสัยทัศน์การส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลของจีนสอดคล้องกับความต้องการพัฒนาในระดับสากล และการเพิ่มพลังทางดิจิทัลจะเปิดโอกาสความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าตามแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ยิ่งขึ้น

ก่อนหน้านี้ สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เคยกล่าวสุนทรพจน์พิเศษ ณ พิธีเปิดการประชุมสุดยอดความร่วมมือระหว่างประเทศ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ครั้งที่ 3 เมื่อเดือนตุลาคม 2023 ว่าจีนจะจัดงานมหกรรมการค้าดิจิทัลโลกทุกปี โดยสีจิ้นผิงได้ส่งสารแสดงความยินดีกับงานมหกรรมฯ ครั้งที่ 2 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023 ซึ่งกล่าวสนับสนุนการทำงานร่วมกันเพื่อผลักดันการค้าดิจิทัลเป็นเครื่องจักรใหม่ที่ขับเคลื่อนการพัฒนาร่วมกันและอัดฉีดแรงกระตุ้นใหม่สู่การเติบโตของเศรษฐกิจโลก

สำหรับงานมหกรรมการค้าดิจิทัลโลก ครั้งที่ 3 เริ่มต้นวันพุธ (25 ก.ย.) ดึงดูดบริษัทผู้ประกอบการนานาชาติมากกว่า 300 แห่ง และผู้ค้าขายระหว่างประเทศมากกว่า 6,000 ราย เข้าร่วมงานและกิจกรรมพิเศษต่างๆ เช่น วันอีคอมเมิร์ซเส้นทางสายไหม และวันการค้าดิจิทัลแห่งแอฟริกา ทำให้งานนี้เป็นงานระดับชาติและระดับนานาชาติที่มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการค้าดิจิทัล

เอกฉัตรกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางกับการค้าดิจิทัลว่าเส้นทางสายไหมโบราณเป็นเส้นทางการค้าระหว่างเอเชียกับยุโรปที่ผู้คนใช้รถม้าและเรือขนส่งสินค้า ขณะปัจจุบันความเป็นดิจิทัลได้ส่งเสริมความร่วมมือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง แปรเปลี่ยนการขนส่งทางเรือและรถม้าเป็นการขนส่งทางดิจิทัล โดยเศรษฐกิจดิจิทัลปรับเปลี่ยนการค้ารูปแบบดั้งเดิม เพิ่มพูนปริมาณการค้า และยกระดับประสิทธิภาพการทำธุรกรรม

งานมหกรรมการค้าดิจิทัลโลกนี้ไม่เพียงเป็นสะพานเชื่อมโยงเศรษฐกิจและการค้าแต่ยังเป็นเวทีแสดงนวัตกรรมใหม่ โดยมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) เศรษฐกิจการบินระดับต่ำ การแพทย์และสุขภาพ วัฒนธรรม ธุรกิจ และการเดินทาง จำนวน 446 รายการ ซึ่งเอกฉัตรชี้ว่างานนี้ช่วยให้นานาประเทศเข้าใจผลิตภัณฑ์ของประเทศอื่นๆ และปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของตนเองให้ดียิ่งขึ้น ก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนแนวคิดและเทคโนโลยีขั้นสูง

เอกฉัตรเสริมว่าเศรษฐกิจดิจิทัลนั้นสร้างโอกาสใหม่แก่การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและระหว่างประชาชนชาวไทยและชาวจีน ช่องทางทางดิจิทัลเพิ่มความสะดวกสบายและความลึกซึ้งแก่การสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของสองประเทศ ซึ่งกำลังจะเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ในปี 2025 พร้อมเชิญชวนชาวจีนท่องเที่ยวไทยและเยือนถนนเยาวราชหรือย่านไชน่าทาวน์อันโด่งดังในกรุงเทพฯ ด้วย

บทความก่อนหน้า

ยังมาแรง! งาน CAEXPO เผยศักยภาพ 'ตลาดจีน' นิยมทุเรียนไทย-เวียดนาม-มาเลย์

บทความถัดไป

โครงการบ่อก๊าซน้ำลึก 'เซินไห่ อีฮ่าว' ฝีมือจีน เริ่มดำเนินงานระยะที่ 2