ปักกิ่ง, 10 ม.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพฤหัสบดี (9 ม.ค.) เหอย่าตง โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน กล่าวว่าความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ได้กระชับความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนระหว่างสมาชิกความตกลงฯ ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นนับตั้งแต่ความตกลงฯ มีผลบังคับใช้เมื่อ 3 ปีก่อน และเสริมสร้างรากฐานการค้าระหว่างประเทศของจีนอย่างมีประสิทธิภาพ
เหอกล่าวว่าจีนที่เป็นประธานหมุนเวียนที่ไม่ใช่อาเซียนของความตกลงฯ ในปี 2024 ได้ทำงานอำนวยความสะดวกแก่สมาชิกใหม่ในการเข้าร่วมความตกลงฯ โดยมีเขตบริหารพิเศษฮ่องกงทางตอนใต้ของจีน รวมถึงศรีลังกา และชิลี ได้ยื่นใบสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงฯ อย่างเป็นทางการแล้ว
ความตกลงฯ เริ่มต้นมีผลบังคับใช้ในปี 2022 และมีอายุครบ 3 ปี เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2025 โดยความตกลงฯ ได้ช่วยเสริมสร้างการบูรณาการทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค ทำให้ปริมาณการค้าภายในภูมิภาคความตกลงฯ ในปี 2023 รวมอยู่ที่ 5.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 193 ล้านล้านบาท) และปริมาณการลงทุนแบบกรีนฟิลด์ (greenfield) เพิ่มขึ้น 2.2 เท่าจากปี 2021
มูลค่าการค้าสินค้าของจีนกับสมาชิกความตกลงฯ ช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายนของปี 2024 สูงถึง 12 ล้านล้านหยวน (ราว 56 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 เมื่อเทียบปีต่อปี
ทั้งนี้ ความตกลงฯ ประกอบด้วย 15 ประเทศ แบ่งเป็นอาเซียน 10 ประเทศ และจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ถือเป็นข้อตกลงการค้าเสรีที่มีประชากรเข้าร่วมมากที่สุดในโลก รวมถึงมีขนาดเศรษฐกิจและการค้าใหญ่ที่สุด และมีศักยภาพการพัฒนามากที่สุด
เหอเสริมว่าจีนจะยังคงดำเนินงานตามความตกลงฯ อย่างครอบคลุมรอบด้านและมีคุณภาพสูง รวมถึงจะมีส่วนส่งเสริมการบูรณาการทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก และสร้างการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันในภูมิภาคเพิ่มขึ้น
ผลการศึกษาจากธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ระบุว่าความตกลงฯ จะช่วยให้รายได้ของสมาชิกเพิ่มขึ้นราวร้อยละ 0.6 ภายในปี 2030 เพิ่มรายได้ให้ภูมิภาค 2.45 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.48 ล้านล้านบาท) ต่อปี และสร้างการจ้างงานในภูมิภาค 2.8 ล้านอัตรา
(แฟ้มภาพซินหัว : สถานที่จัดงานมหกรรมเศรษฐกิจและการค้าตามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (หวยฮว่า) แห่งหูหนาน ครั้งที่ 1 ในเมืองหวยฮว่า มณฑลหูหนานทางตอนกลางของจีน วันที่ 5 พ.ค. 2023)