ลอสแอนเจลิส, 10 ม.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพฤหัสบดี (9 ม.ค.) เหตุไฟป่ารุนแรงยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่องในเขตมหานครลอสแอนเจลิส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย และต้องอพยพผู้คนออกจากบ้านเรือนเกือบ 1.8 แสนคน โดยเหตุไฟป่าทั้ง 5 จุดในเทศมณฑลลอสแอนเจลิสขยายตัวเผาไหม้พื้นที่มากกว่า 29,000 เอเคอร์ (ราว 73,000 ไร่)

สำนักงานคุ้มครองป่าไม้และไฟป่ารัฐแคลิฟอร์เนียเผยว่าเหตุไฟป่าใหญ่ที่สุด 2 จุด ได้แก่ ไฟป่าพาลิเซดส์ (Palisades Fire) และไฟป่าอีตัน (Eaton Fire) ซึ่งเริ่มลุกไหม้เมื่อวันอังคาร (7 ม.ค.) ที่ผ่านมา ขยายวงกินพื้นที่ 17,234 เอเคอร์ (ราว 44,000 ไร่) และ 10,600 เอเคอร์ (ราว 27,000 ไร่) ตามลำดับ เมื่อนับถึงช่วงเช้าวันพฤหัสบดี (9 ม.ค.) โดยยังไม่สามารถควบคุมเปลวเพลิงได้

ไฟป่าพาลิเซดส์เผาไหม้สิ่งปลูกสร้าง 300 หลังเสียหาย และสิ่งปลูกสร้างอีกกว่า 13,300 หลังตกอยู่ในความเสี่ยง ด้านสำนักงานฯ เตือนว่ารูปแบบเพลิงไหม้ที่รุนแรง เช่น การลุกลามระยะใกล้และไกล ยังคงก่อให้เกิดความท้าทายอย่างมากในการพยายามดับไฟ และคาดว่าจะยังคงมีลมกระโชกแรงถึง 60 ไมล์ (ราว 96 กิโลเมตร) ต่อชั่วโมงในพื้นที่ดังกล่าวตลอดทั้งวันพฤหัสบดี (9 ม.ค.)

เมื่อวันพฤหัสบดี (9 ม.ค.) คริสติน โครวลีย์ หัวหน้าหน่วยงานดับเพลิงลอสแอนเจลิส กล่าวว่าไฟป่าพาลิเซดส์นับเป็นหนึ่งในภัยพิบัติธรรมชาติที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของลอสแอนเจลิส

ขณะที่ไฟป่าอีตันที่ลุกลามจากกระแสลมได้สร้างความเสียหายหรือทำลายสิ่งปลูกสร้างจำนวนมาก และคาดว่าทางการยังคงประกาศเตือนธงแดงสภาพลมแรงจนถึงช่วงกลางคืนของวันพฤหัสบดี (9 ม.ค.)

ทั้งนี้ สำนักงานฯ กล่าวอีกว่าความชื้นต่ำ วัสดุเชื้อเพลิงแห้งที่ติดไฟได้ และกระแสลมที่เปลี่ยนทิศทางได้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดไฟป่าและการลุกลามอย่างรวดเร็ว

บทความก่อนหน้า

พายุฤดูหนาวถล่มเท็กซัส เที่ยวบินถูกยกเลิกอย่างน้อย 1,650 เที่ยว

บทความถัดไป

อุตฯ 'มะเขือเทศตากแห้ง' ในอียิปต์ ส่งออกทะลุ 100 ล้านดอลล์ต่อปี