ปักกิ่ง, 12 ธ.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันอังคาร (10 ธ.ค.) กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่าจำนวนรถยนต์ที่ถูกนำมาซื้อขายแลกเปลี่ยน (trade-in) ทะลุ 5 ล้านคันแล้ว เมื่อนับถึงวันจันทร์ (9 ธ.ค.) ภายใต้โครงการต่ออายุรถยนต์ครั้งใหญ่ที่เริ่มต้นเมื่อช่วงก่อนหน้าในปีนี้

จากยอดซื้อขายแลกเปลี่ยนทั้งหมด มีผู้บริโภคนำรถเก่ามากกว่า 2.44 ล้านคันมาแลกเปลี่ยนซื้อขาย และนำเงินอุดหนุนมาซื้อรถใหม่ถึง 2.59 ล้านคัน ซึ่งเงินอุดหนุนนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการระดับชาติที่เปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีเป้าหมายขยายความต้องการภายในประเทศและกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการอัปเกรดอุปกรณ์และการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าอุปโภคบริโภค

ปัจจุบันผู้ที่นำรถเก่ามาแลกเปลี่ยนเป็นรถพลังงานใหม่มีสิทธิ์รับเงินอุดหนุน 20,000 หยวน (ราว 93,150 บาท) ส่วนผู้ที่นำมาเปลี่ยนเป็นรถพลังงานเชื้อเพลิงจะได้รับเงินอุดหนุน 15,000 หยวน (ราว 69,900 บาท)

นโยบายดังกล่าวกระตุ้นตลาดยานยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.5 เมื่อเทียบปีต่อปีอยู่ที่ 2.42 ล้านคันในเดือนพฤศจิกายน และในช่วง 11 เดือนแรก (มกราคม-พฤศจิกายน) จีนมียอดจำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั่วประเทศสูงถึง 20.26 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 เมื่อเทียบปีต่อปี

ในเดือนพฤศจิกายน ยอดขายปลีกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลพลังงานใหม่ในจีนพุ่งแตะ 1.27 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 50.5 เมื่อเทียบปีต่อปี คิดเป็นร้อยละ 52.3 ของยอดขายปลีกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั้งหมดในจีน ส่วนในช่วง 11 เดือนแรกมียอดขายรถยนต์ดังกล่าวอยู่ที่ 9.59 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 41.2 เมื่อเทียบปีต่อปี

ขณะเดียวกัน จีนรีไซเคิลรถยนต์เก่า 1.03 ล้านคันในเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้นร้อยละ 141.6 เมื่อเทียบปีต่อปี ทำให้ยอดรีไซเคิลรถยนต์เก่าในช่วง 11 เดือนแรก แตะที่ 6.88 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 64.6 เมื่อเทียบปีต่อปี

บทความก่อนหน้า

WSJ เผย 'ปืนผี' สังหารซีอีโอยูไนเต็ดเฮลธ์แคร์ เพิ่มกระแสถกเถียงในสหรัฐฯ

บทความถัดไป

กูเกิลเปิดตัว 'เจมิไน 2.0 แฟลช' สร้างภาพ-เสียงได้