โซล, 9 ธ.ค. (ซินหัว) -- วันจันทร์ (9 ธ.ค.) กระทรวงยุติธรรมของเกาหลีใต้ออกคำสั่งห้ามประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล เดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่ยังอยู่ระหว่างดำรงตำแหน่งถูกสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
มาตรการที่ไม่เคยมีมาก่อนนี้เกิดขึ้นตามคำร้องขอของสำนักงานสอบสวนการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงของเกาหลีใต้ ซึ่งเรียกร้องการออกคำสั่งห้ามดังกล่าวเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนกรณียุนประกาศกฎอัยการศึกอย่างกะทันหันเมื่อสัปดาห์ก่อน
สำนักงานฯ เป็นหนึ่งในหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายหลายแห่ง รวมถึงพนักงานอัยการและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่กำลังดำเนินการสอบสวนข้อกล่าวหาก่อกบฏและใช้อำนาจโดยมิชอบอันเกี่ยวพันกับบทบาทของยุนในการประกาศกฎอัยการศึก
รายงานระบุว่ามีบุคคลสำคัญอีก 4 คน ซึ่งรวมถึงผู้บัญชาการทหารระดับสูง 2 คน และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายใน ที่ถูกสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศเช่นกันเพราะพัวพันกับกรณีประกาศกฎอัยการศึกอันสร้างความสับสนวุ่นวาย
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ (9 ธ.ค.) พรรคประชาธิปไตยเกาหลี ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักของเกาหลีใต้ ได้ยื่นร่างกฎหมายและเสนอการแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาพิเศษ เพื่อสอบสวนข้อกล่าวหาก่อกบฏที่มาจากการประกาศกฎอัยการศึกของยุน รวมถึงความเชื่อมโยงอันอื้อฉาวของข้อกล่าวหาต่างๆ กับคิมกอนฮี ผู้เป็นภริยาของยุน
ขณะเดียวกันจอน ฮา-คยู โฆษกกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ ชี้แจงว่าปัจจุบันอำนาจการควบคุมกองทัพเป็นของประธานาธิบดียุน ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดด้วย หลังจากถูกตั้งคำถามว่าผู้ต้องสงสัยในคดีก่อกบฏสามารถถือครองอำนาจดังกล่าวได้หรือไม่
ด้านคิม ฮยอน-แท หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ 707 กล่าวว่าทหารหน่วยปฏิบัติการพิเศษนี้ ซึ่งระดมกำลังปิดล้อมรัฐสภาหลังจากยุนประกาศกฎอัยการศึกเมื่อคืนวันที่ 3 ธ.ค. ตกเป็นเหยื่อของคิม ยอง-ฮยอน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยทหารของเขามีความผิดจากการปฏิบัติตามคำสั่งของเขา แต่ตัวเขาต้องรับผิดชอบตามกฎหมายทั้งหมด
ทีมสอบสวนคดีพิเศษได้สอบปากคำคิม ยอง-ฮยอน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในข้อหาก่อกบฏ ใช้อำนาจโดยมิชอบ และข้อหาอื่นๆ เป็นรอบที่ 3 เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ (9 ธ.ค.) นับตั้งแต่เขาถูกจับกุมเมื่อวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) ที่ผ่านมา
(แฟ้มภาพซินหัว : ชาวเกาหลีใต้ออกมาชุมนุมเรียกร้องการถอดถอนยุน ซอก-ยอล ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีในกรุงโซลของเกาหลีใต้ วันที่ 4 ธ.ค. 2024)