นิวยอร์ก, 26 พ.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันจันทร์ (25 พ.ย.) สื่อสหรัฐฯ รายงานว่าคริสโตเฟอร์ เจ. ซิเฟลลี รองประธานอาวุโสฝ่ายวิจัยโภชนาการของสภาผลิตภัณฑ์นมแห่งชาติของสหรัฐฯ เน้นย้ำถึงบทบาทของผลิตภัณฑ์นมในการสนับสนุนรูปแบบการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืน

ซิเฟลลี ผู้ทำการวิจัยเกี่ยวกับนมมานานกว่าทศวรรษ ระบุว่าเมื่อกล่าวถึงนมและผลิตภัณฑ์นม คนส่วนใหญ่มักนึกถึงแคลเซียมและวิตามินดีที่ช่วยให้กระดูกแข็งแรง แต่ผลิตภัณฑ์นมต่างๆ เช่น นม โยเกิร์ต และคีเฟอร์ (kefir) มีประโยชน์มากกว่านั้นเพราะสามารถช่วยส่งเสริมสุขภาพลำไส้ได้

แพทย์ระบุว่าผลิตภัณฑ์นมที่ผ่านการหมักอย่างโยเกิร์ตและคีเฟอร์ มีจุลินทรีย์ที่มีชีวิตซึ่งช่วยรักษาจุลินทรีย์ที่ดีต่อสุขภาพในลำไส้ โดยแบคทีเรียที่มีประโยชน์เหล่านี้สนับสนุนการย่อยอาหารและการสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งจะทำให้ร่างกายแข็งแรงและมีสุขภาพดี

ซิเฟลลีเผยว่าหนึ่งสิ่งที่สร้างความน่าหงุดหงิดให้กับนักวิทยาศาสตร์โภชนาการ คือการที่บางครั้งเหล่าอินฟลูเอนเซอร์หรือแพทย์ที่ไม่เข้าใจวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริงแนะนำให้เลิกรับประทานผลิตภัณฑ์จากนมหากมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ซึ่งที่จริงแล้วมันควรเป็นไปในทางตรงกันข้าม เนื่องจากผลิตภัณฑ์จากนมสามารถมีส่วนช่วยในการแก้ปัญหา ไม่ใช่เป็นปัญหา

ลำไส้เป็นที่อยู่ของอวัยวะระบบภูมิคุ้มกันที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย ซึ่งคือเซลล์เนื้อเยื่อน้ำเหลืองที่ใต้ชั้นเยื่อบุลำไส้ (Gut Associated Lymphoid Tissue) โดยการรับประทานอาหารจากพืชและผลิตภัณฑ์จากนมในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อสุขภาพลำไส้ที่ดี จะทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารที่สำคัญและได้รับประโยชน์จากสารอาหารอย่างเต็มที่

ซิเฟลลีระบุว่านม ชีส และโยเกิร์ตเป็นแหล่งของสารอาหารที่ดี อาทิ วิตามินเอ วิตามินดี โปรตีน สังกะสี และซีลีเนียม ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน โดยโยเกิร์ตได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยนำของเสียออกไปและนำของดีเข้าสู่ร่างกาย

บทความก่อนหน้า

กองเรือ PLA แล่นออกจากท่าในฮ่องกง

บทความถัดไป

ADB อนุมัติสินเชื่อให้ 'กัมพูชา' 50 ล้านดอลล์ กระตุ้นการค้า-ความสามารถแข่งขัน