ปักกิ่ง, 12 พ.ย. (ซินหัว) -- หญิงสาวไลฟ์สตรีมเมอร์หรือนักไลฟ์สดคนหนึ่งวุ่นอยู่กับการแนะนำถั่วนานาชนิดและคุยโต้ตอบกับผู้ชมไลฟ์สดกว่า 800 คนในช่วงเทศกาลชอปปิง "11.11" หรือมหกรรมชอปปิงออนไลน์ประจำปีของจีน ซึ่งหากดูเผินๆ แล้วสาวนักไลฟ์สดอาจดูเหมือนคนจริง แต่ที่จริงแล้วเธอเป็นระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สามารถตอบกลับความคิดเห็นผู้ชมอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่มีข้อผิดพลาด

อีกด้านหนึ่งของหน้าจอโทรศัพท์ผู้ชม สี่นักไลฟ์สดเอไอกำลังถูกควบคุมโดยคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียวในเมืองอู๋หู มณฑลอันฮุยทางตะวันออกของจีน โดยหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์นี้สามารถโต้ตอบกับลูกค้าที่สอบถามได้โดยอัตโนมัติตลอดทั้งคืน ช่วยให้เพื่อนร่วมงานที่เป็นมนุษย์หลีกเลี่ยงความเครียดจากการทำงานในช่วงดึกได้

แอปพลิเคชันปัญญาประดิษฐ์ผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ดท่ามกลางกระแสเทคโนโลยีที่เฟื่องฟูในจีน จึงไม่แปลกที่นักไลฟ์สดเอไอจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลชอปปิง 11.11 ซึ่งเป็นมหกรรมชอปปิงออนไลน์ประจำปีที่ใหญ่ที่สุดของจีน โดยมักเริ่มขึ้นในเดือนตุลาคมและสิ้นสุดวันที่ 11 พ.ย.

ร้านค้าออนไลน์ในจีนมักกระตุ้นยอดขายด้วยการจ้างนักไลฟ์สด ซึ่งโดยทั่วไปเป็นเหล่าอินฟลูเอนเซอร์บนสื่อสังคมออนไลน์หรือพนักงานขายมืออาชีพ โดยข้อมูลจากหน่วยงานสมาคมศิลปะการแสดงแห่งประเทศจีน พบว่ามีผู้คนมากกว่า 15 ล้านคนไลฟ์สดออนไลน์เป็นอาชีพหลักเมื่อนับถึงเดือนธันวาคม 2023

หานเวย ผู้ดูแลบริการถ่ายทอดสดของแบรนด์กระรอกสามตัว (Three Squirrels) ซึ่งเป็นบริษัทขนมขบเคี้ยว เปิดเผยว่าร้านค้า 1 แห่งต้องการนักไลฟ์สดราว 6 คนสำหรับการถ่ายทอดสดตลอด 24 ชั่วโมง ทว่าการจ้างงานดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายสูงเพราะนักไลฟ์สดที่เป็นมนุษย์ต้องการสตูดิโอ แสงไฟ และการสนับสนุนรูปแบบอื่นๆ ขณะที่นักไลฟ์สดที่เป็นหุ่นยนต์สามารถลดต้นทุนการไลฟ์ของบริษัทได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่ง

หานกล่าวว่าปัจจุบันมีคนหนุ่มสาวจำนวนมากขึ้นที่ชอบชอปปิงออนไลน์ก่อนเข้านอน แต่สำหรับนักไลฟ์สดที่เป็นมนุษย์แล้วช่วงเวลาดังกล่าวค่อนข้างลำบากต่อการทำงาน และนี่คือจุดที่ทำให้นักไลฟ์สดปัญญาประดิษฐ์ซึ่งไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเข้ามามีบทบาทในงานนี้ พร้อมเสริมว่าพนักงานเอไอช่วยเพิ่มยอดขายในช่วงเที่ยงคืนได้มากกว่าร้อยละ 30 ในเทศกาลชอปปิง 11.11 ปีนี้

ซุนจิง ผู้จัดการทั่วไปของทียู เรียลลิตี (TU Reality) บริษัทผู้ให้บริการ "มนุษย์เสมือนจริง" ระบุว่านักไลฟ์สดปัญญาประดิษฐ์ของบริษัทฯ สามารถปรับแต่งได้ทุกอย่างตั้งแต่รูปลักษณ์ไปจนถึงเสียงเพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งการสร้างอวตารของปัญญาประดิษฐ์ใช้ภาพถ่ายเพียงไม่กี่ภาพ ขณะที่ระบบคอมพิวเตอร์ใช้เวลาเรียนรู้หลายชั่วโมงเพื่อฝึกอบรมให้พร้อมใช้งานได้

อย่างไรก็ดี นักไลฟ์สดปัญญาประดิษฐ์อาจไม่สามารถทำได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะช่วงเวลาไลฟ์ที่มีผู้เข้าชมเยอะซึ่งต้องใช้ความสามารถในการโต้ตอบแบบไม่ได้เตรียมมาก่อน และต้องอาศัยการถ่ายทอดอารมณ์ที่สมจริงกว่า หานและเพื่อนร่วมงานจึงตัดสินใจใช้ปัญญาประดิษฐ์เฉพาะบางช่วงเวลาอย่างตอนหลังเที่ยงคืน และใช้นักไลฟ์สดที่เป็นมนุษย์ตอนที่มีผู้คนเข้าชมมาก

แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว ปัจจุบันยังคงมีข้อกังวลว่าอาชีพนักไลฟ์สดจะถูกแทนที่ด้วยปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเข่อเข่อ นักไลฟ์สดรุ่นใหม่จากบริษัทกระรอกสามตัว เผยว่าบริษัทฯ พยายามให้การไลฟ์สดแต่ละครั้งมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และหวังว่าจะสามารถให้การสนับสนุนด้านอารมณ์แก่ผู้ชมได้มากกว่า พร้อมชี้ว่าในยุคนี้การได้เห็นเอไอเข้ามาแทนที่งานระดับล่างมากขึ้นเป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ซุนระบุว่าปัญญาประดิษฐ์นั้นไร้ขอบเขต และสิ่งนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น ซึ่งสิ่งที่ทุกคนต้องทำในฐานะมนุษย์ที่ไม่เหมือนใครคือแสดงออกถึงเอกลักษณ์แตกต่างจากระบบคอมพิวเตอร์

บทความก่อนหน้า

ญี่ปุ่นเล็งอัดฉีด 6.5 หมื่นล้านดอลล์ หนุนพัฒนาอุตสาหกรรม AI-ชิป

บทความถัดไป

เหตุรถพุ่งชนคนในกวางตุ้ง ดับ 35 ราย บาดเจ็บ 43 ราย