
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วยนายแพทย์นิติ เหตานุรักษ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค และทีมเจ้าหน้าที่ ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์หลังน้ำลดในเขตอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อประเมินผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชน โดยพบว่ามีผู้ได้รับบาดแผลจากเศษวัสดุ สิ่งมีคม และสิ่งปนเปื้อนมากับน้ำเป็นจำนวนหนึ่ง ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ โดยเฉพาะโรคบาดทะยัก หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
นายแพทย์มณเฑียร กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมเป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการปนเปื้อนของดิน โคลน และเชื้อโรคต่าง ๆ โดยโรคบาดทะยักถือเป็นภาวะที่ต้องเฝ้าระวังอย่างยิ่ง เนื่องจากเชื้อสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านบาดแผลแม้เพียงเล็กน้อย จึงขอให้ประชาชนที่มีบาดแผลรีบทำความสะอาดบริเวณแผลขจัดสิ่งสกปรกออกให้หมด และเฝ้าสังเกตอาการผิดปกติ เช่น บวม แดง เจ็บ หรือมีหนอง พร้อมประเมินลักษณะแผลว่าเป็นแผลสะอาดหรือเป็นแผลลึกและสกปรก หากพบว่าแผลมีความเสี่ยง ควรรีบไปพบเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อตรวจประเมินเพิ่มทันที รวมถึงควรแจ้งประวัติการได้รับวัคซีนบาดทะยักทุกครั้ง หากไม่มั่นใจว่าเคยได้รับครบ หรือไม่มีหลักฐานการฉีด ควรเข้ารับวัคซีนโดยเร็ว ทั้งนี้ ในกรณีบาดแผลสกปรกหรือแผลขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่อาจพิจารณาให้วัคซีนกระตุ้นหรือสารภูมิคุ้มกันเฉพาะ (Tetanus Immune Globulin : TIG) ตามแนวทางทางการแพทย์
ด้านนายแพทย์นิติ เหตานุรักษ์ กล่าวเสริมว่า ช่วงฟื้นฟูหลังน้ำลดเป็นช่วงที่ประชาชนมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย ทีมเจ้าหน้าที่จึงได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลบาดแผลอย่างถูกวิธี รวมถึงสนับสนุนการเข้ารับบริการด้านสุขภาพในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมให้กำลังใจผู้ประสบภัยทุกครัวเรือน โดยย้ำว่ากรมควบคุมโรคและหน่วยงานในพื้นที่ยังคงดำเนินการดูแลและให้การสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง ขณะเดียวกันขอให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังระหว่างการทำความสะอาดบ้านหลังน้ำลด โดยควรสวมรองเท้าบูทและถุงมือเพื่อป้องกันการสัมผัสสิ่งปนเปื้อนโดยตรง และหากพบว่ามีบาดแผลลึก มีอาการปวด บวม แดง มีไข้ หรือสงสัยว่าอาจติดเชื้อบาดทะยัก ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
แหล่งที่มา: กรมควบคุมโรค

