
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เวลา 15.00 น. นางสาวศศิธร กิตติธรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงาน “เปลี่ยนน้ำเสีย คืนน้ำใส ให้พีพี” โดยองค์การจัดการน้ำเสีย กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง จังหวัดกระบี่ ณ ศูนย์บริหารจัดการคุณภาพน้ำ องค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง (เกาะพีพี)
นางสาวศศิธร กิตติธรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศให้ศูนย์ฯ แห่งนี้เป็น “ต้นแบบระบบจัดการน้ำเสียชุมชน” เพื่อสร้างสมดุลของระบบนิเวศทางทะเล และยกระดับเกาะพีพีให้เป็น แหล่งท่องเที่ยวคุณภาพระดับโลก ตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่มุ่งเน้นการพัฒนาน้ำอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่กับการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
ศูนย์บริหารจัดการคุณภาพน้ำ อบต.อ่าวนาง (เกาะพีพี) เป็นระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนที่ออกแบบ ก่อสร้าง และบริหารจัดการโดย องค์การจัดการน้ำเสีย (อจน.) มีความสามารถบำบัดน้ำเสียได้ถึง 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยน้ำที่ผ่านการบำบัดมีคุณภาพตามมาตรฐานและสามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ในกิจกรรมสาธารณะ เช่น รดน้ำต้นไม้ บำรุงพื้นที่สีเขียว และใช้ทดแทนน้ำใช้ทั่วไป เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนน้ำบนเกาะ โครงสร้างศูนย์ฯ เป็นระบบบำบัดใต้ดินแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมติดตั้งเครื่องจักรและระบบควบคุมที่ได้มาตรฐานสากล ทำให้พื้นที่ด้านบนสามารถใช้เป็นลานกิจกรรม แหล่งนันทนาการ และจุดพักผ่อนสำหรับประชาชนและนักท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย โดยออกแบบให้สอดคล้องกับภูมิทัศน์ของเกาะพีพี ผลงานของศูนย์ฯ ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยได้รับรางวัล
Winner in Landscape Architecture – Park and Garden Landscape จากการประกวด Built Design Awards (BLT) 2025 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สะท้อนถึงศักยภาพของไทยในการบริหารจัดการน้ำเสียร่วมกับการออกแบบพื้นที่สีเขียวอย่างยั่งยืน
นางสาวศศิธร กิตติธรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำว่า “การแก้ไขปัญหาน้ำเสีย คือภารกิจสำคัญของการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและภาพลักษณ์ประเทศ” พร้อมชื่นชมความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ ที่ร่วมกันผลักดันให้เกาะพีพี ก้าวสู่การเป็นต้นแบบเมืองท่องเที่ยวที่พัฒนาอย่างสมดุล
การจัดงาน “เปลี่ยนน้ำเสีย คืนน้ำใส ให้พีพี” ครั้งนี้ จึงเป็นหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกระทรวงมหาดไทย และจังหวัดกระบี่ ในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ฟื้นฟูคุณภาพน้ำ และยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวของไทยให้ทัดเทียมระดับสากล
แหล่งที่มา:
