
วันนี้ (22 พ.ย. 68) เวลา 11.50 น. ณ ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้านานาชาติไคซ์ อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรและผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมนิทรรศการผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งประกอบด้วย นิทรรศการการจัดระเบียบสังคมและการปราบปรามผู้มีอิทธิพล นิทรรศการการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายรัฐบาล (บุรีรัมย์โมเดล) และการดำเนินการศูนย์ฟื้นฟูผู้บำบัดยาเสพติด Community Isolation (CI) อำเภอเมืองขอนแก่น (Best Practice) นิทรรศการการสร้างอาชีพและเพิ่มรายได้ให้ประชาชน นิทรรศการการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน สร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก นิทรรศการน้ำดื่มสะอาดบริการประชาชน และนิทรรศการโครงการคนละครึ่ง พลัส จากนั้น นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยผู้เข้าร่วมงาน ยืนสงบนิ่งถวายความไว้อาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรและผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นว่า แม้ว่ารัฐบาลจะมีเวลาไม่นานนัก เพราะเข้ามาเพื่อทำให้การเมืองมีความเป็นปกติ และเดินหน้าตามความคาดหวังของประชาชน การทำงานเพื่อประชาชนจะอยู่หยุดนิ่งไม่ได้ ต้องดำเนินนโยบายต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ให้กับประชาชนควบคู่กันไป เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ รัฐบาลจึงมีแนวคิดนโยบาย “Quick Big Win” คือ ต้องเร่งผลักดันนโยบายที่สามารถดำเนินการให้เร็วที่สุด (Quick) และครอบคลุมทุกภาคส่วน (Big) ให้ทุกส่วนได้รับประโยชน์จากนโยบายมากที่สุด รวมทั้งให้เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนสูงสุด (Win) เช่น นโยบายคนละครึ่ง พลัส ซึ่งทุกคนทราบดีว่า การดำเนินนโยบายนี้ทำให้การหมุนเวียนของเม็ดเงินและการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นเกิดขึ้นอย่างชัดเจน นอกจากนั้น ประชาชนล้วนมีความพึงพอใจที่ได้มีส่วนร่วมในนโยบายนี้ เพราะได้สามารถจับจ่ายใช้สอย โดยออกเงินเพียงครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งรัฐบาลเป็นผู้สนับสนุน ทำให้ทุกฝ่ายมีความพึงพอใจ คนซื้อก็ซื้อของได้มากขึ้น และคนขายก็ขายของได้มากขึ้น นี่คือคำว่า “Win Win” คือทุกฝ่ายรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ชนะอยู่ตลอดเวลา
แหล่งที่มา: รัฐบาลไทย
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า วันนี้ขอย้ำนโยบายที่จะฝากให้ช่วยกันขับเคลื่อน เรื่องแรก คือ การจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล ทุกคนน่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่าจะต้องทำอะไรบ้างในการจัดระเบียบสังคม แต่ในการปราบปรามผู้มีอิทธิพลนั้น ต้องขอย้ำว่า “ความสุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ” สำคัญที่สุด ถ้าทุกคนไม่เข้าร่วมทุจริต ก็สามารถปราบปรามได้หมด ดังนั้น ต้องให้ความสำคัญกับการปราบปราม “เจ้าหน้าที่สีเทา” ด้วย หากใครไปเจอให้รายงานกับคนที่จะจัดการกับต้นตอนั้นได้ เพื่อดำเนินการนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินทั้งทางวินัยและอาญา
เรื่องที่สอง การแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยที่ผ่านมาระบบมักเน้นการจับกุม แต่การฟื้นฟูนั้นยังไม่ทั่วถึง ทำให้ผู้เสพกลับมาใช้ซ้ำ รัฐบาลจึงตั้งเป้า “ลดผู้เสพ เพิ่มผู้รักษา ปราบปรามผู้ค้า ทำลายแหล่งผลิตอย่างจริงจัง” ทั้งนี้ ขอชื่นชมต้นแบบการทำงานของศูนย์ Community Isolation อำเภอเมืองขอนแก่น ซึ่งบำบัด–ฟื้นฟูได้ครบวงจร โดยมีชุมชนร่วมดูแลและอยากขอให้ทุกคนให้ความสำคัญกับการเร่งค้นหาและคัดกรองผู้ติดยาในทุกหมู่บ้าน และนำเข้าสู่การบำบัดฟื้นฟู การส่งเสริมศูนย์ฟื้นฟูระดับชุมชนให้เข้าถึงง่าย มีการติดตามป้องกันการกลับไปใช้ยาเสพติดซ้ำ และการทำงานร่วมกับตำรวจ เพื่อปราบปรามผู้ค้าในชุมชนและสถานศึกษาอย่างเด็ดขาด
เรื่องที่สาม การสร้างอาชีพและรายได้ให้ประชาชน เพราะรายได้เป็นหัวใจของการพัฒนาคุณภาพชีวิต เราต้องสนับสนุนการรวมกลุ่มอาชีพ พัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นให้มีมาตรฐาน มีตลาดรองรับ และสร้างรายได้อย่างยั่งยืน โดยทุกจังหวัดควรจัดทำแผนงานสร้างอาชีพและเพิ่มรายได้ที่วัดผลได้จริง เชื่อมโยงกับนโยบายสนับสนุนสินค้าไทย เช่น โครงการ OTOP และโครงการพัฒนาชุมชน โดยต้องวางแผนให้มีหลักวิชาการและการตลาด ไม่ใช่ทำสินค้าแบบสุ่มหรือทำโดยไม่มีความต้องการของตลาด ทั้งนี้ สินค้าที่มีคุณภาพและตรงกับความต้องการของตลาด จะขายได้ราคาดี มีมูลค่าเพิ่ม และผู้ผลิตมีทุนไปพัฒนาสินค้าให้ดียิ่งขึ้น ส่วนสินค้าที่ขายไม่ได้จะสูญเปล่าและลดราคาลงจนต่ำกว่าทุน เราต้องช่วยชี้แนะช่องทางตลาดและองค์ความรู้เพื่อให้สินค้าสามารถแข่งขันได้
สี่ รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของเงินทุนภายในพื้นที่ สร้างรายได้และกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนโดยตรง โดยเน้นจุดแข็งด้านวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี และทรัพยากรธรรมชาติของแต่ละจังหวัดและพื้นที่ ซึ่งแต่ละแห่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งนักท่องเที่ยวต่างประเทศเพียงอย่างเดียว ช่วงที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวไทยหันมาท่องเที่ยวภายในประเทศแทน ทำให้การท่องเที่ยวภายในประเทศไทยคึกคักและมีการหมุนเวียนของเงินไม่น้อยไปกว่าช่วงที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งนี้ รัฐบาลยังได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองหลัก เช่น ขอนแก่น ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นเมืองท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางด้านการค้า การเกษตร อุตสาหกรรม และวัฒนธรรมของภาคอีสาน ดังนั้น การพัฒนาจังหวัดขอนแก่นจึงมุ่งทำให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาคอีสาน ควบคู่ไปกับจังหวัดใกล้เคียง เช่น อุดรธานี หนองคาย และบึงกาฬ โดยมีการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง เช่น สะพานข้ามแม่น้ำและระบบราง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายสินค้าและเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว และประเทศจีน
ทั้งนี้ ขอนแก่นยังเป็นชุมทางสำคัญของโครงการรถไฟความเร็วสูงและรถไฟรางคู่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ สร้างงาน และขยายขนาดเศรษฐกิจของภาคอีสานอย่างครบวงจร เพราะภาคอีสานถือเป็นแหล่งสำคัญในการผลิตพืชผลทางการเกษตร ซึ่งสร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างมีนัยสำคัญ
ห้า นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า รัฐบาลยังได้เน้นให้ชุมชนมีน้ำดื่มสะอาด น้ำประปาหมู่บ้าน และไฟฟ้าใช้อย่างทั่วถึง เช่น ในโรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก โรงพยาบาล ตลาด และศูนย์กลางชุมชน เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตของประชาชน รวมทั้งต้องมีการตรวจสอบมาตรฐาน บำรุงรักษาระบบประปาชุมชนให้มีคุณภาพสูงอยู่ตลอดเวลาเพื่อสุขภาวะที่ดีของประชาชน
และ หก รัฐบาลยังมีโครงการคนละครึ่ง พลัส โครงการนี้ ทุกคนรู้จักอยู่แล้ว หน้าที่ของพวกเราคือ ส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนใช้สิทธิให้เต็มที่และครบถ้วน โดยอำนวยความสะดวกการลงทะเบียน ทั้งประชาชนและร้านค้าโดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล ตรวจสอบ และป้องกันการทุจริต หรือเอาเปรียบประชาชน รวมทั้งติดตามการใช้จ่ายในพื้นที่ ให้เงินหมุนเวียนถึงประชาชนจริง
“สำหรับวันนี้ ภารกิจถัดไปจะลงพื้นที่ภาคใต้ จังหวัดสงขลา แม้จะมีเรื่องติดขัดบ้าง แต่ก็ต้องลงไปช่วยประชาชนในทันที การลงพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อให้เราได้เห็นปัญหาอย่างใกล้ชิด และช่วยกันแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อให้ประชาชนมีความสุข นั่นคือยอดปรารถนาของพวกเราทุกคน” นายกรัฐมนตรี ย้ำ