[caption id="attachment_541849" align="alignnone" width="900"]

(แฟ้มภาพซินหัว : เจ้าหน้าที่ทดสอบหุ่นยนต์ภายในโซนนิทรรศการเทคโนโลยีและอุปกรณ์ของงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติจีน (CIIE) ครั้งที่ 8 ในนครเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออกของจีน วันที่ 4 พ.ย. 2025)[/caption] [caption id="attachment_541850" align="alignnone" width="900"]

(แฟ้มภาพซินหัว : ศูนย์นิทรรศการและการประชุมแห่งชาติ (เซี่ยงไฮ้) สถานที่จัดงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติจีน (CIIE) ครั้งที่ 8 ในนครเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออกของจีน วันที่ 4 พ.ย. 2025)[/caption]

กรุงเทพฯ, 5 พ.ย. (ซินหัว) -- หวงเหว่ยเหว่ย รองประธานอาวุโสของเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี กรุ๊ป (CP Group) ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวซินหัวว่าซีพี กรุ๊ปของไทยมีความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมในการรุกขยายธุรกิจในตลาดจีนที่มีขนาดใหญ่และเปิดกว้าง และในฐานะที่ซีพี กรุ๊ปเข้าร่วมงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติจีน (CIIE) มาโดยตลอด บริษัทได้เป็นสักขีพยานการก้าวหน้าอย่างมั่นคงของจีนสู่การเปิดกว้างระดับสูง ซึ่งสิ่งนี้ยิ่งช่วยเสริมความเชื่อมั่นของซีพี กรุ๊ปที่มีต่อตลาดจีน

หวงกล่าวว่าท่ามกลางแนวโน้มลัทธิกีดกันทางการค้าที่เพิ่มมากขึ้น ความมุ่งมั่นของจีนในการจัดงานแสดงสินค้าระดับชาติที่มุ่งเน้นการนำเข้าเผยให้เห็นถึงความเปิดกว้างและความเชื่อมั่นของจีน โดยงานมหกรรมฯ ถือเป็นสัญลักษณ์ความมุ่งมั่นของจีนต่อความร่วมมือระดับโลก

ไทยได้รับเกียรติให้เป็นประเทศเกียรติยศในงานมหกรรมฯ ปีนี้ ซึ่งหวงระบุว่าซีพี กรุ๊ปได้เข้าร่วมงานมหกรรมฯ ครบทั้ง 7 ครั้งตั้งแต่เริ่มจัดขึ้น และขยายขนาดการจัดแสดงอย่างต่อเนื่องในแต่ละปี บูธของซีพีสะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มบริษัทซึ่งมีประวัติยาวนานนับศตวรรษมีการเติบโตและสรรสร้างนวัตกรรมอย่างไรในตลาดจีน ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมด้านการเกษตรและอาหาร ตลอดจนเทคโนโลยีการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานและการแปรรูปอาหาร

หวงกล่าวว่าหนึ่งในไฮไลต์ของงานมหกรรมฯ ปีนี้คือการได้เปิดตัวแบรนด์ไทยหลายแบรนด์ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ซีพี กรุ๊ปเป็นครั้งแรก และหวังว่าจะสามารถช่วยให้แบรนด์ไทยคุณภาพดีเข้าถึงผู้ซื้อจากจีนและทั่วโลกได้มากขึ้นผ่านเวทีงานมหกรรมฯ เป้าหมายของเราไม่ได้มีเพียงเพื่อจัดแสดงสินค้า แต่ยังเป็นไปเพื่อการเรียนรู้และใช้โอกาสเข้าร่วมงานมหกรรมฯ ทบทวนธุรกิจของเรา ศึกษาแนวทางจากบริษัทชั้นนำอื่นๆ และแสวงหาโอกาสความร่วมมือใหม่ๆ ต่อไป

เครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นหนึ่งในบริษัทต่างชาติกลุ่มแรกๆ ที่เข้ามาลงทุนในจีนหลังจากที่จีนใช้นโยบายปฏิรูปและเปิดประเทศเมื่อช่วงทศวรรษ 1970 อีกทั้งเป็นสักขีพยานการเปลี่ยนผ่านของจีนตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา และรุกขยายธุรกิจในตลาดจีนขณะที่จีนเดินหน้าการพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันซีพี กรุ๊ปมีโรงงานแปรรูปอาหารไร้มนุษย์ควบคุมที่ทันสมัยที่สุดตั้งอยู่ในเมืองชิงเต่าและฉินหวงเต่า

หวงเผยว่าซีพี กรุ๊ปได้สร้างโรงงานที่ทันสมัยที่สุดในจีน เนื่องจากจีนมีเทคโนโลยี บุคลากรมีความสามารถ และพื้นฐานทางการตลาดที่ดีที่สุด ตลาดจีนที่กว้างใหญ่และมีพลวัตช่วยเสริมพลังให้ธุรกิจของซีพี ขณะที่สภาพแวดล้อมธุรกิจที่เปิดกว้างของจีนเอื้อต่อการสรรสร้างนวัตกรรมและพัฒนาต้นแบบธุรกิจของเรา

ปัจจุบันเครือเจริญโภคภัณฑ์ก่อตั้งธุรกิจในจีนกว่า 600 แห่ง และมีพนักงานเกือบ 90,000 คน ส่งผลให้เป็นหนึ่งในบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ที่สุดในแง่ปริมาณการลงทุนและความหลากหลายทางธุรกิจในจีน โดยหวงกล่าวว่าตลาดจีนสำคัญอย่างยิ่ง คิดเป็นราวร้อยละ 30 ของรายได้รวมของซีพี กรุ๊ป และในอนาคตซีพี กรุ๊ปจะเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลในจีน และเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงทางอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ท่ามกลางการเติบโตรวดเร็วของอุตสาหกรรมเอไอในจีน

หวงทิ้งท้ายว่าซีพี กรุ๊ปมีแผนมุ่งเน้นการลงทุนในจีนตลอดช่วงทศวรรษหน้าในด้าน "พลังการผลิตใหม่ที่มีคุณภาพ" โดยให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีขั้นสูง หุ่นยนต์ และการผลิตอัจฉริยะ พร้อมชี้ว่าพลังแห่งนวัตกรรมและความรวดเร็วในการพัฒนาของจีนคือแรงขับเคลื่อนสำคัญสำหรับการยกระดับอุตสาหกรรมทั่วโลก และหวังว่าจะสามารถนำประสบการณ์ด้านนวัตกรรมและรูปแบบการประยุกต์ใช้เอไอที่ได้รับจากจีนมาปรับใช้กับการดำเนินงานของซีพี กรุ๊ปในไทยและประเทศอื่นๆ เพื่อช่วยขับเคลื่อนธุรกิจในต่างประเทศของซีพีให้เข้าสู่ยุคเอไอพลัส (AI+) ต่อไป

แท็ก:

แชร์

ข่าวล่าสุด