กรุงเทพฯ, 1 พ.ย. (ซินหัว) -- งานมหกรรมอวกาศแห่งประเทศไทย ณ กรุงเทพฯ เมื่อไม่นานนี้ "ธนบดี สกุลอรุณเพชร" เจ้าหน้าที่ภูมิสารสนเทศศาสตร์ ได้นำเสนอแผนที่พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันทั่วประเทศไทย เพื่อสะท้อนความสำคัญของข้อมูลอวกาศในการดูแลรักษาความปลอดภัยของประชาชนท่ามกลางสภาวะสภาพอากาศเลวร้าย

แผนที่ข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของแอปพลิเคชันที่ธนบดีและทีมงานพัฒนาที่สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือสทอภ. (GISTDA) ซึ่งครอบคลุมการประยุกต์ใช้งานหลากหลายด้าน อาทิ การเฝ้าติดตามภัยพิบัติ การเฝ้าติดตามสุขภาพ และการใช้ที่ดิน

ความสามารถสร้างแอปพลิเคชันสำคัญดังกล่าวของธนบดีมีรากฐานจากประสบการณ์การศึกษาในหลักสูตรปริญญาโทของศูนย์ภูมิสารสนเทศสิรินธร ซึ่งเป็นทุนการศึกษาหลักสูตรสองปริญญาที่จัดตั้งขึ้นผ่านความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยบูรพากับมหาวิทยาลัยอู่ฮั่นของจีน

ธนบดีใช้เวลาหนึ่งปีเรียนวิศวกรรมการสำรวจในจีนเพื่อเก็บเกี่ยวการแลกเปลี่ยนทางเทคโนโลยีและบุคลากรระหว่างสองประเทศ โดยการสัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวเมื่อไม่นานนี้ ธนบดีเผยว่าเทคโนโลยีในจีน โดยเฉพาะด้านวิศวกรรมการสำรวจ แตกต่างจากของไทย เพราะจีนมีดาวเทียมหลายระบบเป็นของตนเอง การใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อวิเคราะห์จึงก้าวหน้าและง่ายกว่ามาก

การให้ความสำคัญกับการพัฒนาทุนมนุษย์อยู่นอกขอบเขตข้อตกลงมหาวิทยาลัยระดับทวิภาคีและได้รับการสนับสนุนอย่างมากผ่านกรอบพหุภาคีอย่างองค์การความร่วมมือด้านอวกาศแห่งเอเชียแปซิฟิก (APSCO) โดยตติยะ ชื่นตระกูล รองผู้อำนวยการแผนกปฏิบัติการโครงการและบริการข้อมูลขององค์การฯ เน้นย้ำว่าจีนมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลขององค์การฯ

อนึ่ง องค์การความร่วมมือด้านอวกาศแห่งเอเชียแปซิฟิก ซึ่งมีไทยเป็นหนึ่งใน 8 ประเทศสมาชิก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงปักกิ่ง คอยให้ทุนการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาเอกแก่นักศึกษาจากกลุ่มประเทศสมาชิก

ตติยะกล่าวว่าความเชี่ยวชาญอันลึกซึ้งของจีนในด้านวิทยาศาสตร์อวกาศ เทคโนโลยี การประยุกต์ใช้ และนโยบายนั้นทำให้ประเทศสมาชิกองค์การฯ ได้รับโอกาสเข้าถึงอาจารย์และผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณวุฒิระดับสูงเพื่อการฝึกอบรมและให้คำปรึกษา ซึ่งทำให้การเข้าถึงเทคโนโลยีอวกาศขั้นสูงนั้นง่ายขึ้นและไม่แพงอย่างที่คิด

ด้านพีร์ ชูศรี รองผู้อำนวยการ สทอภ. มองว่าวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีนในปี 2025 นับเป็นห้วงเวลาดีเยี่ยมในการขยายความร่วมมือหลากมิติ พร้อมทั้งเน้นย้ำว่าความร่วมมือที่ยาวนานเป็นรากฐานที่มั่นคง โดยสทอภ. จะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน

ขณะที่ภานวีย์ โภไคยอุดม อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร กล่าวว่าความร่วมมือกับบริษัทอวกาศเชิงพาณิชย์ของจีนมอบโอกาสอันมีค่าในการวิจัยและฝึกอบรมแก่คณาจารย์และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฯ ทำให้พวกเขาได้สัมผัสเทคโนโลยีล้ำสมัยในดาวเทียมสื่อสารวงโคจรต่ำ และหวังว่าอนาคตไทยจะสามารถพัฒนาดาวเทียมสื่อสารวงโคจรต่ำด้วยตัวเอง

บทความก่อนหน้า

ฝูง 'นกนางนวลปากแดง' แวะพักทะเลสาบในอิ๋นชวน

บทความถัดไป

ศึกษาพบ 'ฟังเพลง-เล่นดนตรี' อาจลดความเสี่ยง 'สมองเสื่อม' ถึง 40%