มะนิลา, 26 ต.ค. (ซินหัว) -- กระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ (DFA) เปิดเผยในวันอาทิตย์ (26 ต.ค.) ว่ามีชาวฟิลิปปินส์มากกว่า 200 ราย ที่คาดว่าตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ ในศูนย์คอลเซ็นเตอร์ผิดกฎหมายในเมืองเมียวดีของเมียนมา ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลฟิลิปปินส์เพื่อการส่งตัวกลับประเทศ

กระทรวงฯ ระบุว่า จวบจนถึงวันศุกร์ (24 ต.ค.) ที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ในนครย่างกุ้งของเมียนมา ได้รับ "คำร้องขอความช่วยเหลือในการส่งตัวกลับประเทศที่ยังดำเนินการอยู่" จำนวน 222 คำร้อง จากชาวฟิลิปปินส์ที่อยู่ในพื้นที่ศูนย์กลางแก๊งฉ้อโกง โดยมีรายงานว่า 66 รายในจำนวนนี้ ได้ข้ามพรมแดนเข้าสู่ประเทศไทยแล้ว และอีก 9 รายได้เดินทางถึงนครย่างกุ้งและอยู่ภายใต้การดูแลของสถานทูตฯ

แถลงการณ์ของกระทรวงฯ ระบุว่า "สถานทูตฯ กำลังทำงานร่วมกับทางการเมียนมาเพื่อสรุปขั้นตอนการส่งตัวผู้ที่อยู่ในค่ายต่างๆ กลับสู่ประเทศ และเพื่ออำนวยความสะดวกในการช่วยเหลือผู้ที่ยังคงติดอยู่ในพื้นที่ศูนย์กลางแก๊งฉ้อโกง"

แถลงการณ์เสริมว่า สถานเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ยังคงติดตามสถานการณ์ในเมืองเมียวดีอย่างใกล้ชิด หลังมีรายงานยืนยันเกี่ยวกับการปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ศูนย์กลางแก๊งฉ้อโกง เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2025 ที่ผ่านมา

กระทรวงฯ ระบุว่ากำลังประสานงานกับกระทรวงแรงงานข้ามชาติของฟิลิปปินส์ (DMW) และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งตัวชาวฟิลิปปินส์ที่ได้รับผลกระทบกลับประเทศอย่างปลอดภัย ผ่านช่องทางความร่วมมือระหว่างรัฐบาลที่ได้จัดตั้งขึ้น และยังคงทำงานร่วมกับภาครัฐของทั้งเมียนมาและไทยเพื่อเร่งรัดกระบวนการดังกล่าว

กระทรวงฯ ได้แนะนำให้ชาวฟิลิปปินส์ทุกคนปฏิบัติตามขั้นตอนการจ้างงานในต่างประเทศที่ถูกต้อง ซึ่งกำหนดโดยกระทรวงแรงงานข้ามชาติ ก่อนที่จะเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปทำงานในต่างแดน

แม้จะมีคำเตือนจากรัฐบาล แต่ยังมีชาวฟิลิปปินส์จำนวนมากที่ถูกล่อลวงด้วยข้อเสนอจ้างงานรายได้สูง และตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ผิดกฎหมายในเมียนมา ลาว และกัมพูชา ชาวฟิลิปปินส์เหล่านี้ รวมถึงคนจากชาติอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สุดท้ายแล้วมักถูกบังคับใช้แรงงานในศูนย์แก๊งฉ้อโกงในประเทศเหล่านี้

ข้อมูลของสหประชาชาติระบุว่า เหยื่อจำนวนมากที่ถูกหลอกลวง ในตอนแรกได้รับคำสัญญาว่าจะได้ทำงานถูกกฎหมาย แต่กลับถูกลักพาตัวและขายต่อไปยังขบวนการฉ้อโกงอื่นๆ

สหประชาชาติแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ของบุคคลหลายพันรายที่ถูกค้ามนุษย์ในภูมิภาคนี้ โดยระบุว่าสถานการณ์ดังกล่าว "อยู่ในระดับวิกฤตด้านมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชนแล้ว"

บทความก่อนหน้า

นายกฯ จีนให้คำมั่น ร่วมมือสิงคโปร์ สร้างระเบียบโลกที่ยุติธรรมและเสมอภาคมากขึ้น

บทความถัดไป

ตำรวจอินเดียรวบตัวคนขี่มอเตอร์ไซค์ ลวนลาม 2 นักคริกเกตหญิงชาวออสเตรเลีย