วอชิงตัน, 17 ต.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพฤหัสบดี (16 ต.ค.) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขู่ว่า "จะเข้าไปสังหาร" สมาชิกกลุ่มฮามาส หลังมีวิดีโอเผยแพร่เหตุการณ์กลุ่มมือปืนที่ถูกอ้างว่าเชื่อมโยงกับฮามาส ทำการประหารชีวิตคนต่อหน้าสาธารณชนในกาซา เพียงไม่กี่วันหลังข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับฮามาสมีผลบังคับใช้
ทรัมป์โพสต์ผ่านทรูธ โซเชียล (Truth Social) ระบุว่าหากกลุ่มฮามาสยังคงสังหารผู้คนในกาซาต่อไป ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเข้าไปและสังหารพวกเขา
เมื่อวันพุธ (15 ต.ค.) ทรัมป์เผยกับซีเอ็นเอ็น (CNN) ว่าจะพิจารณาอนุญาตให้เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กลับมาใช้ปฏิบัติการทางทหารในกาซาอีกครั้ง หากฮามาสยังคงปฏิเสธที่จะทำตามเงื่อนไขหยุดยิง และเมื่อถูกสอบถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากฮามาสปฏิเสธที่จะปลดอาวุธ ทรัมป์กล่าวว่าอิสราเอลจะกลับเข้าพื้นที่ทันทีที่เขาเอ่ยปาก ถ้าอิสราเอลสามารถเข้าไปจัดการฮามาสให้สิ้นซากได้ พวกเขาคงจะทำเช่นนั้น
การหยุดยิงระยะแรกภายใต้ข้อตกลงระหว่างอิสราเอลและฮามาส ประกอบด้วยการถอนกำลังทหารอิสราเอลออกจากกาซาซิตี เมืองราฟาห์ เมืองข่านยูนิส และพื้นที่ตอนเหนือของกาซา รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนตัวประกันและนักโทษ และการเปิดจุดผ่านแดน 5 แห่งเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
แม้รายละเอียดของการหยุดยิงระยะที่สองจะยังไม่ชัดเจน แต่ทรัมป์ได้ประกาศเมื่อไม่นานนี้ว่าการเจรจาเกี่ยวกับการหยุดยิงระยะที่สองได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
อนึ่ง ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและฮามาส ซึ่งปะทุขึ้นในเดือนตุลาคม 2023 ได้คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปแล้วมากกว่า 66,000 ราย และทำให้กาซาเข้าสู่วิกฤตด้านมนุษยธรรมอย่างรุนแรง

(แฟ้มภาพซินหัว : ชาวปาเลสไตน์เดินผ่านซากปรักหักพังของสิ่งปลูกสร้าง หลังเดินทางกลับสู่เมืองข่านยูนิสในฉนวนกาซาตอนใต้ วันที่ 12 ต.ค. 2025)