วอชิงตัน, 17 ต.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพฤหัสบดี (16 ต.ค.) คริชนา ศรีนิวาสัน ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียแปซิฟิกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งร่วมงานแถลงข่าวแนวโน้มเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ของสหรัฐฯ กล่าวว่ากลุ่มประเทศเอเชียอาจกระตุ้นการเติบโตด้วยการเพิ่มอุปสงค์ภายในประเทศและยกระดับการรวมกลุ่มในภูมิภาค
ศรีนิวาสันกล่าวว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกพึ่งพาการค้าภายนอกสูงมาก จึงได้รับผลกระทบมากกว่าเมื่อการค้าโลกผันผวน โดยท่ามกลางความเสี่ยงเชิงลบจากความตึงเครียดทางการค้า จุดเปราะบางที่เกี่ยวกับหนี้สิน และปัจจัยอื่นๆ แต่มีโอกาสเติบโตจากการกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศมากขึ้น หลังจากอุปสงค์ภายในประเทศชะลอตัวอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโรคระบาดใหญ่
ขณะเดียวกันการยกระดับการรวมกลุ่มในภูมิภาคจะก่อให้เกิดผลประโยชน์ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของทั้งเอเชียอาจเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 1.4 ในระยะกลาง และบางประเทศที่ขยายการเปิดกว้างและเชื่อมโยงกับห่วงโซ่อุปทานระดับโลกอาจได้รับผลประโยชน์ยิ่งขึ้นด้วย
อนึ่ง กองทุนฯ คาดการณ์ว่าการเติบโตของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะชะลอตัวจากร้อยละ 4.5 ในปี 2025 อยู่ที่ร้อยละ 4.1 ในปี 2026 แต่ภูมิภาคนี้จะยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของโลกรายใหญ่ที่สุด คิดเป็นราวร้อยละ 60 ในปี 2025-2026 โดยการเร่งส่งออกระยะแรก ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และนโยบายมหภาคที่ผ่อนคลายเป็นปัจจัยเกื้อหนุนที่สำคัญ


(แฟ้มภาพซินหัว : คริชนา ศรีนิวาสัน ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียแปซิฟิกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ เข้าร่วมงานแถลงข่าวแนวโน้มเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ของสหรัฐฯ วันที่ 16 ต.ค. 2025)



