
เยรูซาเล็ม, 16 ต.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพุธ (15 ต.ค.) อิสราเอล คัตซ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอิสราเอล เตือนว่าอิสราเอลจะกลับมาโจมตีและเอาชนะกลุ่มฮามาสอย่างเด็ดขาด รวมถึงเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในกาซาและบรรลุเป้าหมายของการทำสงครามทั้งหมดภายใต้การประสานงานกับสหรัฐฯ หากกลุ่มฮามาสไม่ปลดอาวุธและไม่ส่งคืนร่างของตัวประกันผู้เสียชีวิตทั้งหมดตามข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งมีผลบังคับใช้อย่างง่อนแง่นมา 6 วันแล้ว
คัทซ์ได้ประชุมร่วมกับเสนาธิการและคณะเจ้าหน้าที่ทหารอาวุโส และสั่งให้กองทัพอิสราเอลเตรียมแผนปฏิบัติการเอาชนะกลุ่มฮามาสอย่างรอบด้าน หากอิสราเอลตัดสินใจกลับมาปฏิบัติการทางทหารในกาซาในกรณีกลุ่มฮามาสไม่ทำตามแผนการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยอิสราเอลจะร่วมกับกองกำลังนานาชาติที่นำโดยสหรัฐฯ ทำลายอุโมงค์และโครงสร้างพื้นฐานการก่อการร้ายทั้งหมดในกาซาเพื่อฉนวนกาซาที่ปลอดอาวุธและไม่เป็นภัยคุกคามอิสราเอล
อนึ่ง ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันศุกร์ (10 ต.ค.) ทำให้การโจมตีของอิสราเอลที่ดำเนินมานานกว่าสองปีหยุดลง ซึ่งรายงานข่าวหลายฉบับระบุว่าสร้างความเสียหายย่อยยับแก่ฉนวนกาซา ก่อให้เกิดภาวะอดอยากหิวโหย และมีผู้เสียชีวิตเกือบ 70,000 ราย โดยสหประชาชาติ นักวิชาการ และกลุ่มช่วยเหลือระดับนานาชาติ หวั่นเกรงอิสราเอลอาจก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และอาชญากรรมอื่นๆ ต่อมนุษยชาติ

(ภาพจากกองกำลังป้องกันอิสราเอล : เจ้าหน้าที่ทหารของกองทัพอิสราเอลลงพื้นที่ปฏิบัติการในฉนวนกาซา วันที่ 16 ก.ย. 2025)