เมลเบิร์น, 15 ต.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันอังคาร (14 ต.ค.) สถาบันวิจัยเด็กเมอร์ด็อก (MCRI) ในเมืองเมลเบิร์นของออสเตรเลีย เปิดเผยว่านักวิจัยชาวออสเตรเลียกำลังเริ่มต้นการศึกษาเพื่อติดตามผลลัพธ์จากมาตรการห้ามใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของโลก ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 ธ.ค. นี้ โดยจะเน้นศึกษาผลลัพธ์ที่มีต่อการใช้โทรศัพท์ เวลาหน้าจอ สุขภาพจิต และความเป็นอยู่ที่ดีของวัยรุ่น
การศึกษาเรื่อง "จิตใจที่เชื่อมโยงกัน" ที่ดำเนินการโดยสถาบันฯ และมหาวิทยาลัยดีคิน กำลังเสาะหากลุ่มวัยรุ่นอายุ 13-16 ปีที่ใช้แอปพลิเคชันสื่อสังคมออนไลน์ และผู้ปกครองของพวกเขา เพื่อเข้าร่วมแบ่งปันประสบการณ์ก่อนและหลังมาตรการมีผลในเดือนธันวาคม
ภายใต้กฎหมายห้ามดังกล่าว ซึ่งผ่านรัฐสภาออสเตรเลียในเดือนธันวาคม 2024 แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ที่จำกัดอายุ ต้องป้องกันไม่ให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปีในออสเตรเลียสร้างหรือเก็บบัญชีผู้ใช้เอาไว้ และบริษัทที่ไม่ดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว อาจถูกปรับสูงสุด 49.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 1.05 พันล้านบาท)
ศาสตราจารย์ซูซาน ซอว์เยอร์ จากสถาบันฯ กล่าวว่ามีหลักฐานบางส่วนที่เชื่อมโยงการใช้สื่อสังคมออนไลน์กับสุขภาพกายและใจของวัยรุ่น แต่ยังไม่มีการพิสูจน์ชัดเจนถึงความสัมพันธ์เชิงเหตุและผล โดยการศึกษานี้จะช่วยยืนยันว่าการห้ามใช้งานสื่อสังคมออนไลน์มีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนรูปแบบการใช้โทรศัพท์ของวัยรุ่นและช่วยเสริมสร้างสุขภาพจิตหรือไม่ โดยจะอ้างอิงจากความคิดเห็นของเด็กและครอบครัว
รายงานระบุว่าผู้เข้าร่วมจะต้องทำแบบสอบถามทั้งก่อนและหลังการห้ามใช้งานดังกล่าว พร้อมมีทางเลือกเข้าร่วมการติดตามผ่านแอปพลิเคชัน 2 สัปดาห์ เพื่อตรวจสอบการใช้สื่อสังคมออนไลน์ การนอนหลับ กิจกรรมทางกาย และความรู้สึกด้านความเชื่อมโยงทางสังคม
ซอว์เยอร์ระบุว่าจุดเด่นของการศึกษานี้คือการวัดการใช้สื่อสังคมออนไลน์จากข้อมูลจริง มากกว่าการอ้างอิงเพียงข้อมูลที่ผู้เข้าร่วมรายงานด้วยตนเอง
(แฟ้มภาพซินหัว : คนรับประทานอาหารที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งภายในพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยแห่งออสเตรเลีย ในนครซิดนีย์ของออสเตรเลีย วันที่ 17 พ.ค. 2024)