ลูบลิยานา, 14 ต.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันจันทร์ (13 ต.ค.) มาร์ก รุตเต เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต (NATO) เรียกร้องการเพิ่มงบประมาณกลาโหมเพื่อรับรองความมั่นคง ขณะที่นาโตมุ่งหน้าสู่เป้าหมายเพิ่มการลงทุนร่วมกันในด้านกลาโหม
รุตเตกล่าวในการประชุมสมัชชารัฐสภานาโตซึ่งจัดในเมืองลูบลิยานาของสโลวีเนียว่าประเทศพันธมิตรยุโรปและแคนาดา "กำลังอยู่บนเส้นทาง" ปรับเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมให้ใกล้เคียงกับสหรัฐฯ มากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาภูมิภาคแอตแลนติก อาร์กติก ยุโรป และสหรัฐฯ ให้ปลอดภัย
รุตเตกล่าวว่ากลุ่มสมาชิกนาโตมีเป้าหมายเพิ่มงบประมาณกลาโหมเป็นร้อยละ 5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ภายในปี 2035 ซึ่งรวมถึงร้อยละ 3.5 สำหรับกิจการกลาโหมที่เป็นแกนหลัก โดยปัจจุบันสมาชิกนาโตส่วนใหญ่ จากทั้งหมด 32 แห่ง ใช้งบประมาณกลาโหมน้อยกว่าร้อยละ 3 ของจีดีพี
อนึ่ง การประชุมประจำปีของสมัชชารัฐสภานาโต ซึ่งเป็นองค์กรที่ปรึกษาสำหรับฝ่ายนิติบัญญัติจากประเทศสมาชิกและพันธมิตร ระยะเวลา 4 วัน จบลงเมื่อวันจันทร์ (13 ต.ค.) ที่เมืองลูบลิยานา โดยมีผู้แทนเข้าร่วม 245 คน
สมัชชาฯ มีมติเห็นชอบ 6 ประการ โดยเสนอให้เสริมแกร่งการรับมือต่อการแทรกแซงจากต่างประเทศให้มากขึ้น เสริมสร้างการยับยั้งและป้องกัน ขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก เพิ่มเสถียรภาพในคาบสมุทรบอลข่านตะวันตก เดินหน้าการสนับสนุนยูเครน และเตรียมพร้อมสำหรับสงครามอากาศยานไร้คนขับในอนาคต
คณะผู้แทนเรียกร้องเพิ่มการลงทุนในด้านความสามารถการป้องกันทางอากาศและขีปนาวุธ การบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างเข้มงวดมากขึ้น การจัดสรรงบประมาณสำหรับเทคโนโลยีเกิดใหม่ เช่น โดรน และการรับมือภัยคุกคามแบบผสมผสาน (hybrid threats) อย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

(แฟ้มภาพซินหัว : มาร์ก รุตเต เลขาธิการนาโต เข้าร่วมการแถลงข่าวระหว่างการประชุมสุดยอดนาโต ณ กรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์ วันที่ 25 มิ.ย. 2025)