
เซี่ยงไฮ้, 12 ต.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันศุกร์ (10 ต.ค.) วารสารไซแอนซ์ (Science) เผยแพร่ผลวิจัยจากคณะนักวิจัยที่นำโดยคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยถงจี้ของจีน ซึ่งระบุว่าจีนกำลังพัฒนากรอบงานกำกับดูแลปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่มุ่งส่งเสริมการเปิดกว้างและการสร้างสรรค์นวัตกรรม พร้อมกำกับควบคุมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยระบบ 6 เสาหลักของจีนมีประสิทธิภาพโดดเด่นในการส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมแบบโอเพนซอร์ส (open-source) พร้อมควบคุมความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
ผลวิจัยระบุว่าจุดเด่นของกรอบงานกำกับดูแลปัญญาประดิษฐ์แบบ 6 เสาหลักของจีนคือการพัฒนาแบบโอเพนซอร์สและการวิจัยแบบยกเว้น ซึ่งหมายความว่าการปล่อยโมเดลปัญญาประดิษฐ์บนแพลตฟอร์มอย่างกิตฮับ (GitHub) หรือฮักกิง เฟซ (Hugging Face) หรือการใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์เพื่อวัตถุประสงค์ทางวิชาการเพียงอย่างเดียว ไม่ใช่เพื่อการบริการสาธารณะ ไม่จำเป็นต้องยื่นขออนุญาตตามระเบียบข้อบังคับ
เสาหลักที่ 3 มาจากประสิทธิภาพทางกฎหมายอันเกิดจากการจัดตั้งศาลอินเทอร์เน็ตที่จัดการข้อพิพาทเกี่ยวกับเทคโนโลยีขั้นสูงของจีน ขณะเดียวกันจีนกำลังสำรวจแนวทางกำกับดูแลปัญญาประดิษฐ์ที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงการบริหารจัดการการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในงานวิจัยอย่างเคร่งครัดยิ่งขึ้น และข้อควรปฏิบัติด้านการทบทวนจริยธรรมตามข้อบังคับในการดำเนินกิจกรรมปัญญาประดิษฐ์ที่มีความเสี่ยงสูงบางประเภท
เสาหลักที่ 6 คือกลไกที่เปิดทางให้บริษัทต่างๆ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ปัญญาประดิษฐ์อย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้บริษัทเหล่านี้ก้าวออกจากสภาพแวดล้อมการทดสอบแบบปิดสู่การประยุกต์ใช้งานในโลกความเป็นจริง ดังเช่นกระบวนการทดสอบบนถนนของรถยนต์ไร้คนขับก่อนเปิดตัวสู่ตลาดอย่างเต็มรูปแบบ
จูเย่ว์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยถงจี้ ซึ่งเป็นผู้เขียนผลวิจัยคนแรกและผู้ร่วมประสานงาน กล่าวว่ากรอบงานกำกับดูแลปัญญาประดิษฐ์และหลักการที่วางไว้ของจีนนั้นนำเสนอภูมิปัญญาแบบจีนและพิมพ์เขียวสำเร็จรูปสำหรับการกำกับดูแลปัญญาประดิษฐ์ในระดับโลก
คณะนักวิจัยระบุว่าการส่งเสริมความร่วมมือเชิงลึกด้านปัญญาประดิษฐ์ในระดับโลก ซึ่งมีการเปิดกว้างเป็นกุญแจสำคัญเสมอมา ถือเป็นข้อกำหนดเบื้องต้นในการกำกับดูแลเชิงองค์กรระดับชาติและนานาชาติ เพื่อบังคับใช้มาตรฐานป้องกันความประมาทเลินเล่อและการใช้ปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงที่กำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในทางที่ผิด
ทั้งนี้ จีนกำลังส่งเสริมการกำกับดูแลปัญญาประดิษฐ์ในระดับโลกอย่างจริงจัง โดยปี 2023 จีนเปิดตัวแผนริเริ่มการกำกับดูแลปัญญาประดิษฐ์ระดับโลก ณ ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) สมัยที่ 78 เพื่อยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศในการเสริมสร้างขีดความสามารถทางปัญญาประดิษฐ์

(แฟ้มภาพซินหัว : หุ่นยนต์แสดงสมรรถนะการทำงานที่การประชุมหุ่นยนต์โลก ปี 2025 ในกรุงปักกิ่งของจีน วันที่ 8 ส.ค. 2025)