เยรูซาเล็ม, 10 ต.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพฤหัสบดี (9 ต.ค.) เจ้าหน้าที่อิสราเอลที่ไม่เปิดเผยชื่อกล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่าอิสราเอลจะปล่อยตัวชาวปาเลสไตน์ราว 2,000 ราย ซึ่งรวมถึงผู้เยาว์และนักรบที่ถูกตัดสินโทษ ภายใต้การทำข้อตกลงหยุดยิงในกาซากับกลุ่มฮามาส
เจ้าหน้าที่อิสราเอลกล่าวว่าการหยุดยิงจะมีผลบังคับใช้หลังจากคณะรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐบาลอิสราเอลเห็นชอบแผนการสันติภาพ 20 ประการ ซึ่งเสนอโดยสหรัฐฯ โดยช่วง 24 ชั่วโมงแรก กองทัพอิสราเอลจะถอนกำลังไปยัง "เส้นสีเหลือง" อันเป็นจุดอ้างอิงตามแผนที่หยุดยิงที่ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ เผยแพร่เดือนกันยายน ซึ่งกำหนดการถอนกำลังแบบแบ่งระยะเวลาหลายระยะ ขณะเดียวกันอิสราเอลยังจะเปิดทางให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเข้าสู่ฉนวนกาซา
ส่วนกลุ่มฮามาสจะปล่อยตัวประกันที่เชื่อว่ายังมีชีวิต 20 ราย และร่างตัวประกันที่เสียชีวิตแล้วอีก 28 ราย เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่อิสราเอลจะปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ และส่งคืนร่างนักรบในกาซา 360 ราย โดยรายการตัวประกันประกอบด้วยนักโทษราว 270 ราย ซึ่งถูกตัดสินว่ากระทำความผิดต่างๆ เช่น โจมตีชาวอิสราเอล รวมถึงชาวกาซาราว 1,700 คน ซึ่งถูกควบคุมตัวโดยไม่ได้ถูกไต่สวนและไม่เกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีที่นำโดยกลุ่มฮามาสในปี 2023 และไม่ถูกอิสราเอลจัดเป็นนักรบ นอกจากนั้นเป็นผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 22 ราย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อิสราเอลยืนยันว่ามาร์วัน บาร์กูตี แกนนำอาวุโสของพรรคฟาตาห์ (Fatah) ซึ่งถูกตัดสินโทษจำคุกตั้งแต่ปี 2002 ด้วยบทลงโทษจำคุกตลอดชีวิตหลายกระทงจากเหตุโจมตีร้ายแรงระหว่างการลุกฮือครั้งที่ 2 (Second Intifada) จะไม่ได้รับการปล่อยตัวภายใต้ข้อตกลงนี้
หน่วยงานสาธารณสุขในกาซาระบุว่ากรณีอิสราเอลโจมตีกาซาในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ก่อให้เกิดความเสียหายย่อยยับ ภาวะอดอยากหิวโหย และผู้คนล้มตายมากกว่า 67,000 ราย

(แฟ้มภาพซินหัว : นักโทษชาวปาเลสไตน์ที่ได้รับการปล่อยตัวโบกมือให้ประชาชนจากรถบัสในเมืองข่านยูนิสทางตอนใต้ของฉนวนกาซา วันที่ 27 ก.พ. 2025)