อังการา, 7 ต.ค. (ซินหัว) -- เสาหินรูปตัวที (T) ที่สลักใบหน้ามนุษย์ถูกขุดพบเป็นครั้งแรกระหว่างการขุดค้นล่าสุดที่แหล่งโบราณคดีคาราฮันเทเป ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี (ทูร์เคีย)

การค้นพบนี้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการ "สโตนฮิลส์ โปรเจ็กต์" (Stone Hills Project) ซึ่งเป็นโครงการโบราณคดีขนาดใหญ่ที่มุ่งศึกษาการเปลี่ยนผ่านของมนุษยชาติจากยุคของการเป็นกลุ่มชนเร่ร่อนหาของป่าสู่การตั้งถิ่นฐานถาวร และวิวัฒนาการของระบบความเชื่อเมื่อราว 12,000 ปีก่อน โดยโครงการนี้ดำเนินการที่แหล่งโบราณคดียุคหินใหม่หลายแห่งในภูมิภาคอานาโตเลียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ โกเบคลี เทเป (Gobeklitepe) และคาราฮันเทเป

เมห์เหม็ต นูริ เอร์ซอย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของตุรกี ระบุว่าโบราณวัตถุที่ค้นพบในคาราฮันเทเปช่วยไขมุมมองใหม่ของประวัติศาสตร์มนุษยชาติ โดยเป็นหลักฐานชิ้นแรกที่เผยว่ามนุษย์ยุคหินใหม่สลักภาพตนเองบนเสารูปตัว T

ใบหน้าที่สลักไว้บนส่วนบนของเสาหินดังกล่าวมีลักษณะสันจมูกคมชัด ดวงตาลึก และจมูกกว้างทรงเหลี่ยม ซึ่งคล้ายกับรูปปั้นมนุษย์อื่นๆ ที่เคยถูกขุดพบก่อนหน้านี้ในคาราฮันเทเป การค้นพบนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงทักษะเชิงเทคนิคของชุมชนยุคหินใหม่ตอนต้น แต่ยังแสดงถึงความสามารถในการคิดเชิงนามธรรมและการสร้างภาพแทนตนเองของมนุษย์ยุคนั้นด้วย จึงถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการศึกษาเกี่ยวกับยุคหินใหม่

ที่ผ่านมา เสาหินรูปตัว T ที่พบในคาราฮันเทเปและโกเบคลี เทเปมักมีลวดลายแกะสลักเป็นแขนและมือ ซึ่งนักวิจัยตีความว่าเป็นสัญลักษณ์แทนมนุษย์ แต่การค้นพบครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่พบ "ใบหน้ามนุษย์" สลักโดยตรงลงบนเสา ซึ่งเผยให้เห็นมิติใหม่ของการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์และศิลปะในสังคมยุคหินใหม่

กระทรวงฯ เสริมว่าการค้นพบนี้สนับสนุนแนวคิดที่ว่าเสาหินรูปตัว T มีบทบาทเชิงสัญลักษณ์มากกว่าการใช้งานด้านโครงสร้างหรือจุดประสงค์เพื่อพิธีกรรม โดยเป็นครั้งแรกที่เสาหินเหล่านี้สื่อถึงรูปลักษณ์มนุษย์อย่างตรงไปตรงมา ถือเป็นก้าวสำคัญในวิวัฒนาการของภาพแทนมนุษย์และความเชื่อด้านจิตวิญญาณ

บทความก่อนหน้า

สิงคโปร์เผย 'เศรษฐกิจดิจิทัล' ครองจีดีพี 18.6% ในปี 2024

บทความถัดไป

เวียดนามเผย 'เงินเดือนเฉลี่ย' ไตรมาสสาม เพิ่มแตะ 8.4 ล้านดอง