อัลมาตี, 3 ต.ค. (ซินหัว) -- องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) คาดการณ์ว่าความต้องการน้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นจาก 308 ล้านบาร์เรลเป็น 378 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปี 2050 ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 23
เบห์รูซ ไบคาลิซาเดห์ หัวหน้าฝ่ายปิโตรเลียมศึกษาขององค์การฯ ซึ่งนำเสนอรายงานแนวโน้มตลาดน้ำมันโลกที่งานสัปดาห์พลังงานคาซัคสถาน ปี 2025 และการประชุมคาเซเนอร์จี (KAZENERGY) ครั้งที่ 16 ในกรุงอัสตานาของคาซัคสถาน กล่าวว่าความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของประชากรโลกที่จะเพิ่มขึ้นจาก 8.2 พันล้านคนเป็น 9.7 พันล้านคน
ไบคาลิซาเดห์กล่าวว่าประชากรมากกว่า 1.2 พันล้านคนจะอาศัยอยู่ตามเมืองต่างๆ ภายในปี 2050 ขณะเดียวกันต้นทุนที่สูงขึ้นจะเร่งการเติบโตของกลุ่มสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) โดยความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในภาคธุรกิจน้ำมันจะเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน แต่จะยังไม่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สำคัญเกิดขึ้น
รายงานเสริมว่าพลังงานหมุนเวียนจะครองส่วนแบ่งร้อยละ 13.5 ของส่วนประสมทางพลังงานทั่วโลกภายในปี 2050 ขณะถ่านหินและแหล่งพลังงานอื่นๆ จะครองส่วนแบ่งลดลงร้อยละ 13 โดยการผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหินจะลดลงอยู่ที่ 3.2 เทราวัตต์ชั่วโมง ทำให้สัดส่วนพลังงานทางเลือกเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 24 เป็นร้อยละ 65.5

(แฟ้มภาพซินหัว : สำนักงานใหญ่องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันในกรุงเวียนนาของออสเตรีย วันที่ 5 ก.ย. 2022)