วอชิงตัน, 3 ต.ค. (ซินหัว) -- รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แจ้งสภาคองเกรสว่าปัจจุบันสหรัฐฯ มีส่วนเกี่ยวข้องกับ "การขัดกันทางอาวุธที่ไม่ใช่ระดับระหว่างประเทศ" กับกลุ่มค้ายาที่สหรัฐฯ กำหนดเป็นองค์กรก่อการร้าย
ทำเนียบขาวระบุว่าทรัมป์กำหนดให้กลุ่มค้ายาเหล่านี้เป็นกลุ่มติดอาวุธที่ไม่ใช่ระดับรัฐ เป็นองค์กรก่อการร้าย และการกระทำของพวกเขาเป็นการโจมตีสหรัฐฯ ด้วยอาวุธ โดยปัจจุบันกลุ่มข้ามชาติเหล่านี้เป็นกลุ่มค้ายาที่กำลังทำการโจมตีทั่วซีกโลกตะวันตก
อย่างไรก็ดี ไม่มีการระบุเฉพาะเจาะจงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มค้ายาใด หรือทางการสหรัฐฯ เชื่อมโยงผู้ต้องสงสัยเป้าหมายกับองค์กรเหล่านั้นอย่างไร
กองกำลังสหรัฐฯ ได้จมเรือสามลำที่สหรัฐฯ กล่าวหาว่ามาจากเวเนซุเอลาในน่านน้ำสากลทางตอนใต้ของทะเลแคริบเบียนเมื่อเดือนกันยายน ซึ่งทำให้คนบนเรือเสียชีวิต 17 ราย โดยสหรัฐฯ ระบุว่าผู้เสียชีวิตเป็น "นักรบที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย" และสหรัฐฯ โจมตีเพื่อปกป้องตนเอง
การโจมตีครั้งนี้ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์จากสมาชิกสภาคองเกรสที่มาจากพรรคเดโมแครต โดยแจ็ค รีด วุฒิสมาชิกจากรัฐโรดไอแลนด์ ซึ่งเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการเหล่าทัพที่มาจากพรรคเดโมแครต กล่าวหาว่าทรัมป์ตัดสินใจทำสงครามลับกับใครก็ตามที่เขาเรียกว่าศัตรู โดยที่รัฐบาลทรัมป์ไม่ได้มีเหตุผลทางกฎหมาย หลักฐาน หรือข่าวกรองที่น่าเชื่อถือพอจะทำการโจมตี
นอกจากนั้นรัฐบาลสหรัฐฯ ยังจัดส่งกองเรือรบเข้าประจำการทะเลแคริบเบียน ด้านเดอะนิวยอร์ก ไทมส์ รายงานว่ากระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ได้สะสมกำลังทหารในภูมิภาคดังกล่าวมากกว่า 6,500 นายแล้ว
ทั้งนี้ นิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา กล่าวหาสหรัฐฯ หลายครั้งว่าใช้ภัยคุกคามจากกลุ่มค้ายาเป็นข้ออ้างในการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองและซ่องสุมกำลังทหารในลาตินอเมริกา ขณะรายงานปี 2020 จากสำนักงานปราบปรามยาเสพติดของสหรัฐฯ ระบุว่าแม้โคเคนบางส่วนมาจากอเมริกาใต้ผ่านเวเนซุเอลา แต่ประเทศนี้ไม่ใช่ต้นทางหลักของยาเสพติดที่เข้าสู่สหรัฐฯ

(แฟ้มภาพซินหัว : อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ หลังรั้วกั้นในกรุงวอชิงตันดี.ซี. ของสหรัฐฯ วันที่ 1 ต.ค. 2025)