วอชิงตัน, 2 ต.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพุธ (1 ต.ค.) รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ระงับงบประมาณ 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.42 แสนล้านบาท) สำหรับกลุ่มรัฐที่เป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครตในวันแรกของการชัตดาวน์รัฐบาลกลาง ซึ่งทรัมป์บอกว่าเป็นโอกาสดีในการตัดสิ่งที่ไม่ต้องการทิ้งไป
รัสเซลล์ วอต ผู้อำนวยการฝ่ายงบประมาณประจำทำเนียบขาว กล่าวว่ามีการตัดงบประมาณราว 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.59 แสนล้านบาท) ใน "กรีน นิว สแกม" (Green New Scam) ซึ่งมุ่งผลักดันวาระเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศของฝ่ายซ้ายหรือพรรคเดโมแครต ส่งผลกระทบต่อ 16 รัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครต
ขณะเดียวกันกระทรวงคมนาคมของสหรัฐฯ ได้ระงับงบประมาณ 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.83 แสนล้านบาท) สำหรับหลายโครงการโครงสร้างพื้นฐานในนิวยอร์ก ที่ซึ่งชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต และฮาคิม เจฟฟรีส์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎร มักตกเป็นเป้าโจมตีของทรัมป์
กระทรวงฯ ชี้ว่าการระงับงบประมาณดังกล่าวเป็นผลพวงจากการชัตดาวน์ของชูเมอร์และเจฟฟรีส์ ทำให้ต้องใช้เวลามากขึ้นในการตรวจสอบแนวปฏิบัติอันขัดกับรัฐธรรมนูญ โดยกระทรวงฯ จำเป็นต้องพักงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสิทธิพลเมืองที่รับผิดชอบการตรวจสอบนี้เนื่องจากไม่มีงบประมาณ
ด้านชูเมอร์กล่าวว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของทรัมป์กำลังใช้ภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลกลางมา "แบล็กเมล์" กลุ่มรัฐที่เป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครต ใช้ประชาชนชาวอเมริกันเป็นหมาก ใช้คำข่มขู่จะสร้างความเจ็บปวดแก่ประเทศเป็นเครื่องมือแบล็กเมล์
อนึ่ง เมื่อวันพุธ (1 ต.ค.) วุฒิสภาสหรัฐฯ ไม่สามารถอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณระยะสั้น ทำให้รัฐบาลกลางเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 7 ปี โดยก่อนหน้านั้นในวันอังคาร (30 ก.ย.) ทรัมป์กล่าวว่าภาวะชัตดาวน์อาจนำพาสิ่งดีๆ มา และกำจัดสิ่งต่างๆ ที่เราไม่ต้องการ
วันพฤหัสบดี (2 ต.ค.) สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางได้รับคำสั่งให้หยุดปฏิบัติงานราว 7.5 แสนคน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางอีกจำนวนหนึ่งต้องปฏิบัติงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง

(แฟ้มภาพซินหัว : อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ และไฟจราจรในกรุงวอชิงตันดี.ซี.ของสหรัฐฯ วันที่ 1 ต.ค. 2025)