ปักกิ่ง, 17 ก.ค. (ซินหัว) – เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการจัดงานประชุมนานาชาติว่าด้วยโรคผิวหนัง (International Medical Derm Summit) ประจำปี 2025 ณ เทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ ทางตะวันออกของจีน โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังชั้นนำกว่า 150 คนจากทั้งในและต่างประเทศเข้าร่วม แลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับโรคผิวหนังที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างรุนแรงและต้องมีการดูแลแบบบูรณาการในระยะยาว
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นโดยสมาคมส่งเสริมเวชศาสตร์ชะลอวัยแห่งประเทศจีน (CAWA) เปิดเวทีด้วยการอภิปรายเชิงลึกเกี่ยวกับโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis: AD) ซึ่งเป็นโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อประชากรราว 230 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งในจำนวนนี้อยู่ในจีนประมาณ 70 ล้านคน
ผู้เชี่ยวชาญได้ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับกระบวนการดูแลโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (AD) อย่างครบวงจร ตั้งแต่การวินิจฉัยระยะแรก การบำบัดแบบเฉพาะเจาะจง ไปจนถึงกลยุทธ์การจัดการระยะยาวที่ได้รับการสนับสนุนด้วยข้อมูลคลินิกจากการใช้งานจริง
ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญชาวจีนได้นำเสนอแนวทางการรักษาโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังฉบับปรับปรุงประจำปี 2025 ของประเทศจีน ซึ่งเน้นการเปลี่ยนผ่านจากการใช้ยาสเตียรอยด์แบบเดิมไปสู่การรักษาแบบแม่นยำและเฉพาะบุคคล
อีกประเด็นสำคัญคือการนำเสนอข้อมูลจากชื่อทะเบียนข้อมูลผู้ป่วย (AHEAD) ซึ่งเป็นงานวิจัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกเกี่ยวกับ “เจเอเค1” (JAK1) หรือยาต้านโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ที่ดำเนินการโดยทีมนักวิจัยชาวจีน ครอบคลุมผู้ป่วยมากกว่า 1,000 คนจากสถานที่ 42 แห่งทั่วประเทศ โดยทะเบียนนี้เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญในการกำหนดมาตรฐานการรักษาทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก
ที่ประชุมยังได้หารือเกี่ยวกับโรคผมร่วงเป็นหย่อม (AA) และภาวะโรคผิวหนังจากการขาดวิตามิน (VIT) ซึ่งเป็นโรคผิวหนังที่เกี่ยวข้องกับภูมิต้านทานที่ผิดปกติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อรูปลักษณ์ภายนอกและก่อให้เกิดความเครียดทางอารมณ์อย่างรุนแรง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยวัยรุ่น ตลอดจนเน้นย้ำถึงความสำคัญของการดูแลแบบเฉพาะบุคคลและความเอื้ออาทร ที่จะช่วยยกระดับผลการรักษาทางคลินิกและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย
ศาสตราจารย์เซียงเหล่ยหง จากภาควิชาโรคผิวหนัง โรงพยาบาลหัวซาน มหาวิทยาลัยฟู่ตั้น เน้นย้ำว่า “เราจำเป็นต้องสื่อสารกับผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างกรอบการตัดสินใจร่วมกันโดยอิงเป้าหมายการรักษาและความคาดหวังของผู้ป่วย” เธอส่งเสริมการรักษาแบบผสมผสานและการวางแผนระยะยาว เพื่อชะลอการลุกลามของโรค ฟื้นฟูเม็ดสีผิว และเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ป่วย
การประชุมนี้ยังเน้นย้ำบทบาทที่เพิ่มขึ้นของจีนในการพัฒนามาตรฐานการดูแลโรคผิวหนังในระดับโลก
เฟลิกซ์ เฉา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการแพทย์ของไฟเซอร์ ประเทศจีน กล่าวว่า “ไฟเซอร์ได้ร่วมมือกับแวดวงโรคผิวหนังของจีนมาอย่างยาวนาน เพื่อผลักดันการพัฒนาวิชาชีพให้ก้าวหน้า และเราจะเดินหน้าสานต่อความร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหกรรมและวิชาการ เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยจำนวนมากขึ้นต่อไป”
(เนื้อหาโดย Hu Jiefei และ Ding Yawen เรียบเรียงโดย Su Dan, Xinhua Silk Road, https://en.imsilkroad.com/p/346657.html)