หลานโจว, 21 ก.ค. (ซินหัว) -- รายงานการสอบสวนของรัฐบาลจีนที่เผยแพร่วันอาทิตย์ (20 ก.ค.) เปิดเผยการจับกุมกลุ่มนักลงทุน ผู้อำนวยการ และผู้ประกอบอาหารของโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในมณฑลกานซู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน จำนวน 6 ราย ฐานเจตนาเติมเม็ดสีที่ปนเปื้อนสารตะกั่วลงในอาหารของเด็กนักเรียน ทำให้เด็กได้รับสารพิษ 247 คน

การสอบสวนดังกล่าวเป็นไปตามคำสั่งจากคณะผู้นำระดับมณฑลกานซู่ มีผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมและสาธารณสุขระดับรัฐเข้าร่วม และได้ข้อสรุปว่าอาหารของโรงเรียนอนุบาลเฮ่อสือ เผยซิน ในเขตม่ายจี เมืองเทียนสุ่ย ถูกเติมเม็ดสีที่มีป้ายกำกับชัดเจนว่า "ห้ามรับประทาน" ลงในแป้งที่ใช้ทำปอเปี๊ยะและขนมชั้น ซึ่งเด็กและบุคลากรบริโภคทุกเดือนตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2024

ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้ได้สั่งการให้ทำอาหารที่มีสีสันดึงดูดตาเพื่อการตลาดโดยนักลงทุนของโรงเรียนเห็นชอบด้วย ขณะผลวิเคราะห์ตัวอย่างอาหารของโรงเรียนอนุบาลโดยห้องปฏิบัติการตรวจพบปริมาณสารตะกั่วสูงเกินมาตรฐานอย่างมาก ได้แก่ 1,340 มิลลิกรัม/กิโลกรัมในปอเปี๊ยะ และ 1,052 มิลลิกรัม/กิโลกรัมในขนมชั้น

ส่วนการตรวจสอบเด็กของโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้ จำนวน 251 คน พบเด็กที่มีระดับสารตะกั่วในเลือดผิดปกติ 247 คน (รวมเด็กที่เข้าข่ายเพิ่มเติมระหว่างการตรวจติดตามผลอีก 14 คน) และบุคลากรที่มีระดับสารตะกั่วในเลือดผิดปกติ 28 คน

ทั้งนี้ เด็กทั้ง 247 คนได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลหรือการบำบัดทางโภชนาการที่บ้านแล้วเมื่อนับถึงเที่ยงวันอาทิตย์ (20 ก.ค.) โดยเด็ก 234 คนได้ผ่านการรักษารอบแรกและออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่ยังมีพักรักษาตัวอยู่อีก 1 คน ส่วนเด็ก 5 คน ที่จบจากโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้ในปี 2024 มีระดับสารตะกั่วในเลือดผิดปกติและอยู่ระหว่างการบำบัดทางโภชนาการที่บ้าน

การประเมินทางคลินิกโดยคณะผู้เชี่ยวชาญระบุว่าระดับสารตะกั่วในเลือดลดลงเฉลี่ยร้อยละ 40.21 หลังจากรับการรักษา ซึ่งบรรลุเป้าหมายทางการแพทย์ที่คาดการณ์ไว้

หน่วยงานตำรวจได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 6 ราย ซึ่งสองรายถูกฝากขังและสามรายได้รับการประกันตัวระหว่างรอสอบสวนเพิ่มเติม ด้านหน่วยงานตรวจสอบวินัยระดับมณฑลดำเนินการสอบสวนเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น 10 ราย รวมถึงผู้อำนวยการคณะกรรมการสาธารณสุขระดับมณฑลและคณะผู้นำเมืองเทียนสุ่ย

รัฐบาลมณฑลกานซู่จะรับผิดชอบการดูแลทางการแพทย์ให้เด็ก ซึ่งครอบคลุมการรักษาโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายและความช่วยเหลือทางการเงินแก่ครอบครัวที่ต้องการพาบุตรหลานไปรักษาที่อื่นๆ

บทความก่อนหน้า

งาน CISCE ครั้งที่ 3 โชว์ผลสำเร็จห่วงโซ่อุตสาหกรรม EV

บทความถัดไป

ลาวจับตา 'ไต้ฝุ่นวิภา' คาดฝนถล่ม เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันเพิ่มขึ้น