เวียงจันทน์, 18 ก.ย. (ซินหัว) -- กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ของลาว ร่วมกับสถาบันวิจัยเศรษฐกิจอาเซียนและเอเชียตะวันออก (ERIA) เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับสูงว่าด้วยการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานอาเซียน : ประเด็นและความท้าทายที่สำคัญ ในนครหลวงเวียงจันทน์ของลาวเมื่อวันจันทร์ (16 ก.ย.) โดยมีคณะเจ้าหน้าที่รัฐบาล ผู้เชี่ยวชาญ และผู้นำทางธุรกิจจากทั่วภูมิภาคร่วมหารือการส่งเสริมการบูรณาการ ท่ามกลางความท้าทายระดับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป
การประชุมนี้มุ่งเน้นยุทธศาสตร์ต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระดับภูมิภาคด้านการจัดการห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งสอดคล้องกับการเป็นประธานอาเซียนของลาวในปี 2024 ภายใต้หัวข้อ "อาเซียน : เพิ่มการเชื่อมโยงและความแข็งแกร่ง" โดยมาไลทอง กมมะสิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ กล่าวถึงปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของอาเซียน ทั้งการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ ความก้าวหน้าทางดิจิทัล และการให้ความสำคัญกับความยั่งยืนเพิ่มขึ้น
มาไลทองตอกย้ำความจำเป็นของโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลและการประสานงานนโยบายที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อกระตุ้นความสามารถทางการแข่งขันในภาคธุรกิจเกิดใหม่ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า เซมิคอนดักเตอร์ และการบริการทางดิจิทัล โดยการหมุนเวียนข้อมูลอย่างอิสระยิ่งขึ้นและการสนับสนุนการเคลื่อนตัวของผู้มีความรู้ความสามารถทางดิจิทัลภายในอาเซียนเป็นพันธกิจสำคัญของการประสานงานระดับภูมิภาค
นอกจากนั้นมาไลทองเรียกร้องการพัฒนากลไกเชิงองค์กรเพื่อปกป้องห่วงโซ่อุปทานจากการหยุดชะงักที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงทางสาธารณสุขระดับโลก
อนึ่ง การประชุมระดับสูงว่าด้วยการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานอาเซียน : ประเด็นและความท้าทายที่สำคัญ ยังรวบรวมข้อมูลเชิงลึกจากคณะผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียง ซึ่งสำทับถึงความสำคัญของการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานในการขับเคลื่อนการเติบโตระยะยาวของอาเซียนด้วย
(แฟ้มภาพซินหัว : ลูกค้าดูอาหารที่เทศกาลอาหารลาวในนครหลวงเวียงจันทน์ของลาว วันที่ 23 ม.ค. 2024)